1268 1461 1064 1114 1942 1974 1916 1112 1525 1554 1809 1376 1113 1884 1225 1549 1455 1559 1279 1783 1142 1198 1751 1633 1864 1069 1718 1234 1173 1397 1045 1892 1956 1020 1125 1456 1559 1324 1965 1586 1144 1501 1100 1693 1853 1672 1036 1398 1015 1227 1221 1408 1338 1090 1690 1131 1331 1696 1366 1705 1480 1116 1941 1509 1934 1096 1420 1936 1237 1060 1702 1762 1823 1464 1847 1408 1545 1844 1038 1441 1088 1127 1042 1266 1089 1206 1518 1825 1426 1530 1456 1600 1462 1486 1796 1472 1465 1393 1663 เจอกันอีกทีกลางปีหน้า ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดสืบพยานคดีแกนนำ #MBK39 มิถุนา 62 | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

เจอกันอีกทีกลางปีหน้า ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดสืบพยานคดีแกนนำ #MBK39 มิถุนา 62



วันที่ 17 ธันวาคม 2561 เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดตรวจพยานหลักฐาน คดีผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่หอศิลป์กรุงเทพ #MBK39 เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561  เวลาประมาณ 9.00 น. ศาลขึ้นบัลลังก์ จำเลยทั้ง เก้าคนมาศาล เอกชัยหนึ่งในจำเลยมาถึงศาลในเวลาประมาณ 10.30 น. เอกชัยแถลงต่อศาลว่าเขามาถึงศาลล่าช้า เพราะระหว่างเดินทางมารถเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน

 

กระบวนการในวันนี้ศาลอ่านคำฟ้องให้จำเลยทั้งเก้าคนฟัง ทั้งเก้าคน ยืนยันให้การปฏิเสธ อัยการแถลงขอนำพยานเข้าสืบรวม 14 ปาก ศาลให้เวลา 5 นัด ฝ่ายจำเลยนำพยานเข้าสืบรวม 13 ปาก ศาลให้เวลาสืบ 5 นัด และให้คู่ความไปนัดวันสืบพยานกันเองภายในวันนี้ซึ่งภายหลังทั้งสองฝ่ายนัดสืบพยานในวันที่ 4 - 7, 18 - 21, และ 25 - 26 มิถุนายน 2562

 

ก่อนหน้านี้อัยการฟ้องคดีนี้แยกเป็น 2 สำนวน เพราะวีระ หนึ่งในผู้ต้องหาไม่ว่างมาฟังคำสั่งคดีพร้อมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 จึงขอเข้าพบอัยการก่อนในวันที่ 22 ตุลาคม 2561 ในวันดังกล่าวอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีวีระจึงถูกฟ้องเป็นหนึ่งสำนวน ต่อมาเมื่อผู้ต้องหาคนอื่นๆมาฟังคำสั่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 อัยการจึงฟ้องผู้ต้องหาอีกแปดคนที่เหลือเป็นอีกหนึ่งสำนวนคดี หลังมีการฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เป็นจำเลย อัยการแถลงขอให้ศาลรวมสำนวนคดีทั้งสองเข้าด้วยกันเพราะเป็นเหตุการณ์เดียวกันและใช้พยานหลักฐานชุดเดียวกัน ฝ่ายจำเลยแถลงไม่คัดค้าน ศาลจึงอนุญาตให้รวมสำนวนคดีทั้งสองเข้าด้วยกัน

 

สำหรับรายละเอียดการกระทำตามข้อกล่าวหาตามคำฟ้องคดีนี้สรุปได้ว่า จำเลยทั้ง 9 คน มีพฤติการณ์ร่วมกันแชร์โพสต์เฟซบุ๊กบนเพจเฟซบุ๊กกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย เชิญชวนประชาชนมาร่วมการชุมนุมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.ในวันที่ 27 มกราคม 2561 ต่อมาในวันที่ 27 มกราคม 2561 จำเลยทั้งหมดร่วมกันจัดการชุมนุมในที่สาธารณะ โดยที่บริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับวังสระปทุมในระยะห่างไม่เกิน 150 เมตร ระหว่างการชุมนุมมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลและเรียกร้องให้คนออกมาร่วมการชุมนุม

 

การกระทำของจำเลยเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ไม่ได้เป็นไปในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนุูญ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และทำให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ด้วยการชุมนุมตั้งแต่ห้าคนและเป็นการชุมนุมในรัศมีไม่เกิน 150 เมตรจากเขตพระราชฐานของเจ้านายชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า ตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ

 

โดยพยานโจทก์ที่จะมาเบิกความในคดีนี้ จะมีการนำสืบในประเด็นหลักๆได้แก่ ข้อความการปราศรัยของจำเลยมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 อย่างไร และระยะการยื่นของจำเลยระหว่างการทำกิจกรรมอยู่ห่างจากวังสระปทุมแค่ไหน ส่วนประเด็นหลักๆที่จำเลยเตรียมนำสืบ ได้แก่การชุมนุมของจำเลยเป็นเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญและเจตนาในการกระทำของจำเลยเป็นเจตนาบริสุทธิ์ จำเลยบางส่วนก็เตรียมสู้คดีในส่วนของบทบาทว่าไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นผู้้จัดการชุมนุมด้วย

 

ระหว่างการพิจารณาในนัดนี้ สุกฤษฎ์ จำเลยที่เจ็ดได้แถลงขอให้ศาลอนุญาตให้สืบพยานลับหลังเขาเนื่องจากในขณะนี้เขาอยู่ระหว่างการศึกษาต่อที่ประเทศไต้หวันไม่สะดวกที่จะมาศาล ศาลเห็นว่าจำเลยที่เจ็ดมีการแต่งตั้งทนายความไว้แก้ต่างแล้ว และคดีก็มีอัตราโทษสูงสุดไม่เกิน 10 ปี จึงอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังได้ ส่วนที่ทนายจำเลยแถลงขอให้ศาลยุติการดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 ข้อ 12 เนื่องจากมีการออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 22/2561 ออกมายกเลิกแล้ว ศาลแจ้งกับทนายว่าจะนำประเด็นดังกล่าวไปใส่ไว้ในคำพิพากษา

 

หลังการเสร็จกระบวนพิจารณาคดีคู่ความลงมากำหนดวันนัดพิจารณาคดีร่วมกันและได้นัดวันสืบพยานกันในเดือนมิถุนายน 2562 ดังที่ได้ระบุไปข้างต้น สมบัติ หนึ่งในจำเลยคดีนี้ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคเกียนและอยู่ระหว่างเตรียมการรณรงค์รับสมัครเลือกตั้งระบุว่าการถูกดำเนินคดีก็เป็นเสมือนชะตากรรมที่เลี่ยงไม่ได้ของคนทำกิจกรรม จึงไม่คิดว่าจะมีผลกระทบต่อการรณรงค์และลงสมัครรับเลือกตั้ง ขณะที่รังสิมันต์ สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ก็ระบุว่า เนื่องจากตัวเขามีคดีจากการทำกิจกรรมหลายคดีทั้งในศาลพลเรือนและศาลทหาร หากคดีใดมีผลออกมาก่อนมีการประกาศผลการเลือกตั้งก็อาจมีผลต่อคุณสมบัติในการลงสมัครหรือการเป็นผู้แทน แต่หากคดีมีคำพิพากษาหลังมีการประกาศรับรองผลเป็นสมาชิกสภาผู้แทนฯและอยู่ในสมัยประชุมก็อาจไม่กระทบกับการทำงานการเมืองมากนักเพราะจะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองอยู่ อย่างไรก็ตามตัวเขามีความกังวลกับคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมากกว่าศาลยุติธรรม

////////////////////////////////////////////////////
สำหรับเหตุแห่งคดีนี้ เกิดขึ้นในวันที่ 27 มกราคม 2561 เมื่อมีกลุ่มประชาชนมารวมตัวกันที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพ เพื่อคัดค้านการสืบทอดอำนาจของคสช. ให้มีการจัดการเลือกตั้งภายในปี 2561 และให้ยุติการดำเนินคดีกับกลุ่มประชาชนที่ร่วมกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพ เดินเท้าจากกรุงเทพไปขอนแก่น เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุคดีนี้อยู่ใกล้ห้างมาบุญครอง จึงมีการตั้งชื่อย่อคดีว่าคดี #MBK39 ตามสถานที่และจำนวนของประชาชนที่ถูกดำเนินคดี สำหรับผู้ต้องหา 39 คนในคดีนี้มีการแยกดำเนินคดีเป็น 2 ลักษณะ

ประชาชน 30 คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร่วมการชุมนุมจะถูกตั้งข้อกล่าวหาตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 ข้อ 12 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคน และข้อหาชุมนุมในรัศมีไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชฐานของเจ้านายชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า ส่วนประชาชนอีก 9 คนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดการชุมนุม ทั้ง 9 ถูกตั้งข้อกล่าวหาเหมือนกับผู้ต้องหาคดีผู้ร่วมการชุมนุมแต่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดจะถูกตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เพิ่มเติมด้วย สำหรับประชาชนอีก 30 คนที่ถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ร่วมการชุมนุมเบื้องต้นอัยการเจ้าของสำนวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีไปแล้วแต่ขณะนี้ยังรอคำสั่งคดีจากอัยการสูงสุดอยู่ โดยคดีดังกล่าวมีการเลื่อนนัดคำสั่งคดีไปแล้วถึงหกครั้ง ครั้งต่อไปในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562

 


อ่านรายละเอียดคดี #MBK39 (คดีผู้จัดการชุมนุม)
อ่านรายละเอียดคดี #MBK39 (คดีผู้ร่วมการชุมนุม)