1357 1730 1794 1194 1920 1768 1106 1711 1503 1708 1047 1019 1856 1889 1648 1021 1504 1403 1438 1449 1874 1101 1093 1633 1624 1234 1110 1813 1827 1531 1555 1479 1303 1356 1479 1099 1022 1333 1011 1714 1307 1308 1202 1384 1822 1503 1467 1435 1865 1512 1598 1697 1812 1737 1996 1459 1399 1720 1888 1629 1018 1086 1114 1256 1313 1323 1380 1532 1049 1014 1719 1346 1241 1718 1169 1839 1480 1674 1446 1574 1699 1671 1917 1271 1471 1010 1760 1307 1423 1130 1373 1781 1893 1448 1385 1097 1919 1163 1971 เปิดข้อมูลครึ่งแรกปี 2561 เฟซบุ๊กบล็อคเนื้อหาในไทย 285 เรื่อง เป็นอันดับ 12 ของโลก | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

เปิดข้อมูลครึ่งแรกปี 2561 เฟซบุ๊กบล็อคเนื้อหาในไทย 285 เรื่อง เป็นอันดับ 12 ของโลก



ในรายงานที่เฟซบุ๊กเปิดเผยต่อสาธารณะ ได้แสดงจำนวนเนื้อหาที่ถูกจำกัดการเข้าถึงทั่วโลก โดยระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 เฟซบุ๊กปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาไป 15,337 เรื่อง เป็นเนื้อหาจากประเทศไทย 285 เรื่อง โดยประเทศที่มีการจำกัดเนื้อหามากที่สุดคือ ปากีสถาน ที่ 2,203 เรื่อง รองลงมาเป็นบราซิล ที่ 1,855 เรื่อง และเยอรมนี ที่ 1,764 เรื่อง ไทยอยู่ที่อันดับที่ 12 จากทั้งหมด 66 ประเทศ

 

สำหรับเนื้อหาที่ถูกจำกัดในประเทศไทยเป็นเนื้อหาที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งการปิดกั้นเป็นผลมาจากคำร้องจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จำนวน 283 เรื่อง ส่วนอีก 2 เรื่องเป็นกรณีหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา

 

การจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาของประเทศไทยในปี 2557, 2559 และ 2560 ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกัน โดยปริมาณการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ที่ 283 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ แล้ง เกือบจะเท่ากับจำนวนที่ปิดกั้นทั้งปี 2561 ที่ 364 เรื่อง ข้อสังเกต คือ ในปี 2557 คำร้องส่วนหนึ่งถูกส่งไปยังเฟซบุ๊กโดยกระทรวงต่างประเทศ และศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (Thai Cert) ขณะที่ในปี 2558 รายงานของเฟซบุ๊กไม่ปรากฏว่าได้บล็อคเนื้อหาจากประเทศไทยเลย

 

รายงานของเฟซบุ๊ก ชี้แจงด้วยว่า เฟซบุ๊กจะจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาบางประเภทได้ตามกฎหมายของท้องถิ่น ซึ่งการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาจะถูกจำกัดเฉพาะในประเทศหรือภูมิภาคที่เนื้อหานั้นเข้าข่ายผิดกฎหมาย หมายความว่า ยังอาจเข้าถึงได้หากใช้งานเฟซบุ๊กจากประเทศอื่นที่กฎหมายไม่ได้กำหนดให้เรื่องนั้นๆ เป็นความผิด

 

สำหรับการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายท้องถิ่นแต่ละประเทศนั้นมีประเด็นแตกต่างกัน เช่น ที่ปากีสถาน ในครึ่งแรกของปี 2561 มีการร้องขอจากเจ้าพนักงานการโทรคมนาคมแห่งชาติของปากีสถานที่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมทางอิเลกทรอนิคส์ให้ลบเนื้อหาที่เข้าข่ายหมิ่นศาสนาและเนื้อหาการต่อต้านกระบวนการยุติธรรม

 

หรือที่เยอรมนีที่มีการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่ปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง เนื้อหาที่เกี่ยวพันกับองค์กรหัวรุนแรงผิดกฎหมายและการละเมิดกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเยาวชน รวมถึงจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิเสธการเกิดขึ้นของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง (holocause denial) ตามคำสั่งศาลเยอรมนี และ เนื้อหาหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา นอกจากนี้ยังจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาจำนวน 170 เรื่องเพื่อปฏิบัติตาม The Network Enforcement Act (NetzDG) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า Facebook Act ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับการยุยงปลุกปั่น (agitation) และข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย
 

 

//////////////////////////////////////////////////////
อ่านเพิ่มเติมรายงานเพื่อความโปร่งใสของเฟซบุ๊ก

ชนิดบทความ: