1418 1747 1544 1719 1357 1383 1670 1216 1219 1845 1847 1487 1652 1296 1339 2000 1963 1691 1075 1005 1237 1598 1092 1912 1049 1011 1661 1692 1182 1240 1069 1279 1987 1538 1380 1494 1933 1526 1907 1335 1194 1853 1847 1167 1533 1551 1648 1635 1801 1697 1716 1799 1283 1673 1763 1146 1356 1812 1543 1232 1387 1679 1613 1670 1486 1594 1557 1851 1718 1029 1533 1437 1174 1091 1227 1794 1106 1650 1786 1132 1686 1474 1119 1082 1849 1318 1287 1269 1003 1177 1685 1845 1443 1511 1814 1501 1370 1742 1299 พิพากษาคดี 112 นัฏฐพล จำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา กรณีคอมเมนต์เกี่ยวกับการป่วย ร.10 | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

พิพากษาคดี 112 นัฏฐพล จำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา กรณีคอมเมนต์เกี่ยวกับการป่วย ร.10

11 มกราคม 2567 ศาลอาญานัด นัฏฐพล ซึ่งถูกกล่าวหาว่าทำความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) สืบเนื่องการเขียนคอมเมนต์ท้ายโพสต์เฟซบุ๊กของ Somsak Jeamteerasakul ที่เผยแพร่ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เกี่ยวกับข่าวลือเกี่ยวกับอาการพระประชวรของรัชกาลที่ 10 คดีนี้นัฏฐพลให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนและแต่มาเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพภายหลังในชั้นศาล ศาลจึงสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะประวัติของนัฏฐพลเพื่อนำมาประกอบการทำคำพิพากษา โดยศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกนัฏฐพลเป็นเวลาสามปี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก หนึ่งปีหกเดือน โดยไม่รอการลงโทษจำคุก
 
3037
บรรยากาศระหว่างนัดอ่านคำพิพากษา นัฏฐพลและแม่มาถึงที่ห้องพิจารณาคดี 913 ศาลอาญา ตั้งแต่ก่อนเวลา 09.00 น. ในห้องพิจารณาคดีมี ลุงดอน นักกิจกรรมที่มักติดตามไปสังเกตการณ์ การพิจารณาคดีมาตรา 112 ตามศาลต่างๆ มารอฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดีด้วย ศาลขึ้นบัลลังก์ในเวลา 09.15 น. หลังศาลขึ้นบัลลังก์ผู้พิพากษาที่น่าจะอาวุโสที่สุดในองค์คณะได้กล่าวกับนัฏฐพลว่า คดีนี้เขาถูกฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเขาให้การรับสารภาพ และศาลได้มีคำสั่งให้สืบเสาะประวัติของนัฏฐพลแล้ว จากนั้นจึงให้ผู้พิพากษาอีกคนหนึ่งเป็นผู้อ่านคำพิพากษา โดยศาลอ่านเฉพาะในส่วนของการกำหนดโทษเท่านั้น ไม่ได้อ่านบรรยายฟ้องและไม่ได้อ่านรายงานการสืบเสาะ หลังอ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุกนัฏฐพลเป็นเวลาสามปีและลดโทษจำคุกให้กึ่งหนึ่งเพราะคำรับสารภาพ เหลือจำคุกหนึ่งปี หกเดือน ผู้พิพากษาอาวุโสกล่าวกับนัฏฐพลอีกครั้งว่า คดีนี้ศาลไม่ได้รอการลงโทษจำคุกให้ แต่คดียังไม่ถึงที่สุด จำเลยยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน การอ่านคำพิพากษาในนัดนี้ใช้เวลาสั้นๆ ประมาณไม่เกิน 30 นาที หลังศาลอ่านคำพิพากษา อาสาสมัครของกองทุนราษฎรประสงค์ได้รีบออกจากห้องพิจารณาคดีเพื่อไปดำเนินเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราวให้นัฏฐพลระหว่างต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ โดยจะวางหลักทรัพย์ 100,000 บาทเป็นหลักประกัน

ในเวลา 15.14 น. อาสาสมัครกองทุนราษฎรประสงค์แจ้งว่า ศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนัฏฐพลระหว่างอุทธรณ์คดีแล้วด้วยวงเงิน 100,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ 

นัฏฐพลจำเลยคดีนี้ถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในวันที่ 15 กันยายน 2564 เบื้องต้นเขาให้การปฏิเสธและได้รับการปล่อยตัวในชั้นสอบสวนโดยไม่ต้องวางหลักประกัน อัยการฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญาในวันที่ 4 กันยายน 2566 โดยอัยการบรรยายฟ้องทำนองว่า การกระทำของจำเลยมีลักษณะเป็นการสาปแช่งรัชกาลที่ 10 เป็นการจองเวร อาฆาต เข้าข่ายเป็นการดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ทําให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปเกิดความเข้าใจผิดต่อรัชกาลที่ 10 และสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ จนอาจนํามาซึ่งความเกลียดชังหรือความแตกแยกในสังคม หลังอัยการฟ้องคดี นัฏฐพลได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลชั้นต้นด้วยหลักทรัพย์ 90,000 บาทของกองทุนราษฎรประสงค์ 
 
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมคดีนี้ได้ทางเว็บไซต์ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน