1961 1160 1974 1538 1000 1327 1961 1011 1292 1261 1698 1812 1864 1075 1055 1686 1305 1746 1491 1987 1747 1234 1354 1025 1171 1108 1616 1535 1352 1076 1364 1423 1610 1948 1454 1593 1248 1907 1073 1247 1219 1113 1276 1315 1258 1035 1154 1292 1629 1866 1173 1283 1285 1023 1122 1604 1627 1175 1365 1531 1882 1247 1026 1801 1778 1738 1124 1372 1209 1770 1667 1673 1091 1196 1339 1081 1294 1257 1867 1976 1725 1596 1733 1260 1365 1274 1404 1325 1795 1953 1250 1354 1362 1865 1671 1875 1553 1245 1440 เปิดความในใจ "พายุ" เลือดไหลจากตาเหมือนอาบน้ำ | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

เปิดความในใจ "พายุ" เลือดไหลจากตาเหมือนอาบน้ำ

 
หลังจากพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิบวัน พายุ บุญโสภณ หรือ พายุ ดาวดิน จากเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน ผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าที่ตาขวาระหว่างการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 บริเวณถนนดินสอมาบอกเล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์วันดังกล่าวว่า ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 เขามาชุมนุมในช่วงการประชุมเอเปคระหว่างวันที่ ต้องการนำประเด็นปัญหาพี่น้องชาวบ้านมาพูด โดยเฉพาะประเด็นบีซีจี [Bio-Circular-Green Economy] ที่รัฐกำลังจะร่วมกับนายทุนผ่านนโยบายที่กำลังทำลายทรัพยากรธรรมชาติภายในประเทศ การชุมนุมสองวันแรกผ่านพ้นไปด้วยดี ผู้ชุมนุมปักหลักที่ลานคนเมืองเล่าปัญหาที่เผชิญและต้องเผชิญหนักขึ้นหากข้อตกลงพวกเขามองว่า ทำลายทรัพยากรธรรมชาตินั้นผ่านไปได้
 
2714
 
2715
 
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ผู้ชุมนุมตั้งเป้าเคลื่อนขบวนจากลานคนเมืองไปที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ผ่านถนนราชดำเนินกลาง วันนั้นพายุรับดูแลภาพรวมอยู่ด้านหน้าขบวน ระหว่างการเคลื่อนขบวนจากลานคนเมืองมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตำรวจตั้งจุดเหนี่ยวรั้งสามจุด สองจุดแรกผ่านได้ง่ายดาย จุดที่สามที่หัวถนนดินสอก่อนเข้าวงเวียนอนุสาวรีย์ ตำรวจนำรถกระบะมาตั้งเป็นสิ่งกีดขวางและไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนผ่านไปได้ ต่อมาผู้ชุมนุมใช้สลิงดึงเพลารถเพื่อเปิดแนวออก พอแนวเปิดตำรวจพุ่งเข้าหาผู้ชุมนุมและจับกุมตัวไป มีการใช้กระสุนยางโดยไม่แจ้งเตือนจังหวะนั้นพายุคิดแล้วว่า แปลก เนื่องจากว่า การชุมนุมรอบนี้เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้คาดหมายว่า จะมาเผชิญหน้ากับตำรวจจนมีเหตุเช่นนี้
 
2716
 
2717
 
ช่วงประมาณเที่ยงระหว่างที่ผู้ชุมนุมพักกินข้าวกลางวันกัน มีนักกิจกรรมบางส่วนไปแอคชั่นเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งกลุ่มทุนที่หน้าแนวรถกระบะของตำรวจ ใช้เตาอั้งโล่จุดไฟและนำกระทะใส่พริกเกลือวางบนหน้ารถตำรวจ เปิดพัดลมเป่าควันไปทางตำรวจ “ตอนแรกดูเหมือนเหตุการณ์ปกติไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นจำได้ว่า พอหันมองกลับไป ตำรวจฉีดน้ำใส่เตาที่เผาพริกเผาเกลือ พอมวลชนเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้จึงมีการขว้างปาสิ่งของ และเกิดอารมณ์ไม่พอใจขึ้นมา จากนั้นสักพักหนึ่งก็เกิดการสลายการชุมนุม”
 
2718
 
 
"จริงๆ ตอนนั้นผมจำอะไรเกือบแทบไม่ได้ จำได้ลางๆ ผมบอกรถเครื่องเสียงว่า ไม่ต้องถอย และผมก็หันไปข้างหน้าเห็นทีมพี่เปา จากสมัชชาคนจนอยู่แนวหน้า ผมเห็นแล้วผมก็วิ่งขึ้นไปเพื่อที่จะคล้องแขนขบวน จังหวะที่กำลังจะวิ่งไปผมก็โดนยิงเลย ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเป็นกระสุนยาง แต่มันแปลบจนวิ้งสว่างขึ้นมาแล้วหูก็อื้อข้างนี้ [จับหูข้างขวา] ก่อนที่จะพบว่ามีเลือดไหล พอจับที่ตาก็รู้ว่าโดนตาแน่ๆ ก็เลยคิดในหัวว่า ถ้าเราวิ่งไปตรงรถพยาบาลของทีมเรา น่าจะโดน คฝ.ตีแน่ๆ เพราะข้างหน้า คฝ.พร้อมที่จะใส่เราเต็มที่ เพราะพี่เปาก็โดนก่อน เราเลยเดินไปนั่งที่ฟุตบาทอีกฝั่ง [ฝั่งขวาหากหันหน้าเข้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย] ตำรวจสองคนวิ่งเข้ามาจะตี ผมก็ยกมือขึ้นและบอกว่า โดนยิงเลือดไหล และเขาก็ดูเหมือนว่าตกใจเขาก็วิ่งไปต่อ และก็มีสองคนวิ่งมาเขาบอกว่าตามพี่มารถโรงพยาบาลข้างหลัง [บริเวณหน้าร้านหนังสือริมขอบฟ้า]"
 
"ตอนรู้ตัวว่า โดนยิงที่ตาแน่ๆ เรากลับไม่รู้สึกว่า ซวยแล้วชีวิตนี้พังแล้ว แต่รู้สึกว่า รู้ตัวและยอมรับไปก่อนว่าตาโดนยิงแล้ว มีสติแล้วพยายามดูว่า คนอื่นยังโอเคไหม ซึ่งแต่ละคนก็โดนกันหนัก แต่ตอนนั้นเราไปช่วยก็ไม่ไหวเพราะจังหวะนั้นเลือดไหล จนเรารู้สึกเลยว่า มันไหลมาเยอะมาก คล้ายๆ กับตอนเราอาบน้ำเลย ก็เลยถอนตัวออกมาก่อนแล้วไปขึ้นรถโรงพยาบาล ระหว่างนั้นมันมีอาการ คือ เราเสียเลือดมาก มีความรู้สึกอยู่ดีๆ ก็หนาวขึ้นมา ขนเริ่มลุกและใจเริ่มเต้นแบบแปลกๆ ใจเริ่มสั่นเหมือนกินกาแฟสองแก้วก็เลยพยายามไม่ใช้ร่างกาย ใช้สายตาอะไรมาก เราก็หลับตาทำแผลเรียบร้อยอยู่กับตัวเอง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยป่วยหรือเจ็บหนักอะไรเลยนะ"
 
"จังหวะนั้นก็ฉุกคิดหลายเรื่อง เรื่องขบวนจะเป็นยังไงกันต่อ จะโดนหนักกันไหม ทำไมรัฐมันทำในรูปแบบนี้กับเรา มันไม่ได้มีมาตรฐาน ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย และคิดว่าซวยแล้วที่บ้านต้องหนักแน่ๆ ความรู้สึกคนที่บ้านคงจะหนัก เพราะที่บ้านอยู่กับตากับยายด้วย เป็นคนแก่ทั้งคู่ กลัวแกจะรู้สึกสภาพจิตใจจะไม่ไหว"
 
 
2719
 
 
2720
 
จากภาพบันทึกเหตุการณ์พบว่า พายุถูกยิงตั้งแต่นาทีแรกๆที่คฝ.บุกเข้ามาสลายการชุมนุม ตอนที่เขาไปที่รถพยาบาล โชคดีว่า มีผู้ชุมนุมอีกคนหนึ่งอยู่ตรงนั้นจึงขึ้นรถติดตามไปถึงโรงพยาบาลตำรวจด้วย พอถึงโรงพยาบาลก็โทรบอกเพื่อนคนหนึ่งว่าอยู่ตรงนี้ แต่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงให้รอจนผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย หลังจากผ่าตัดเสร็จฟื้นขึ้นมาพายุถามพี่ที่มาเยี่ยมว่า “พวกเรา” ที่มาเคลื่อนขบวนเป็นยังไงบ้าง ได้รับคำตอบว่า ไม่ต้องห่วง เพื่อนเราโดนจับไป 25 คน ชาวบ้านก็โดนทำร้าย “แต่เอ็งหนักที่สุดแล้วไม่ต้องเป็นห่วงคนอื่น”
 
“ผมพยายามถามอารมณ์ความรู้สึกคนอื่นๆ หลังจากเสร็จม็อบว่าถ้ารู้ข่าวผมจะรู้สึกยังไง คือเราประคองสติแล้วเราทำใจยอมรับมันได้มันก็เลยผ่านเรื่องนี้ไปได้ พอคนอื่นๆ ที่เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์และช็อคแบบนี้ ช็อคกับเรื่องของผมที่เกิดขึ้น ช็อคกับความรุนแรงที่เขาเจอต่อหน้าและมันส่งผลร้ายกว่าที่เขาประเมินไว้ ความรู้สึกของคนนั้นมันอยากจะระเบิด อาจจะสติหลุดไป ผมห่วงมากเรื่องนี้มาก แต่เช็คสภาพแล้วทุกคนยังโอเคอยู่ ทุกคนก็เป็นห่วงผมมาก เราผ่านเรื่องนี้ได้ก็โอเค ทำตัวเข้มแข็งปกติ คือไม่ได้แกล้งทำ”
 
ระหว่างที่พายุรักษาตัวที่โรงพยาบาล ประชาชนเริ่มทำแคมเปญถ่ายภาพปิดดวงตาขวาของตนเองลงบนโซเชียลมีเดียเพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเมื่อพายุลืมตาได้ เขาจะได้เห็นกำลังใจจากทุกๆคน พายุบอกว่า “ไม่คิดว่าคนจะเอาเรื่องราวของเราไปพูด แอคชั่น หรือทำแคมเปญขนาดนั้น เห็นแล้วก็ดีใจ ชอบด้วย ชอบทั้งเรื่องโควทคำ 'ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดาวล้านดวง' มีคนพยายามดันเรื่อง คฝ.ยิงพายุ ความรู้สึกมันยังมีการโอบรับกันตลอดเวลาไม่ว่าสถานการณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับทีมพวกเราและชาวบ้าน รู้สึกอบอุ่นดีและขอบคุณมาก”
 
2721
 
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 พายุออกจากโรงพยาบาลไปพักฟื้นที่บ้าน ระหว่างนี้ก็ยังต้องพบแพทย์และเดินสายไปถามข้อเท็จจริงตามกลไกต่างๆที่มีอยู่ เช่น คณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ข้อเท็จจริงทั้งหลายนี้มีส่วนสำคัญที่จะดำเนินคดีไม่ให้ผู้กระทำพ้นผิดลอยนวลได้ “ทีใครทีมันแล้วกัน คุณทำกับพวกผมแบบนี้ ผมก็จะทำกับพวกคุณตามกฎหมาย เราไม่เล่นนอกกติกาแน่นอน ไม่ปล่อยเรื่องที่ไม่ชอบธรรมหรือความอยุติธรรมให้ลอยนวลยังไงก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
 
2722
 
2724
 
อาการบาดเจ็บที่หนักหนาอาจต้องใช้ระยะพักฟื้นยาวนาน ทำให้เขาเริ่มเป็นกังวลในงานที่ทิ้งไว้และคนที่เป็นห่วงหลายๆคน “อยากไปเดินสายหาเพื่อนๆ หลายคนก็คิดถึงผมอยากเจอ ทั้งพี่น้องชาวบ้านด้วยที่อยู่ในขบวนร่วมสู้กันมา อยากไปหาครอบครัวด้วยอาจจะไปหาให้พอหายคิดถึง จากนี้ก็คงต้องกลับไปทำงานต่อ”
 
สำหรับการชุมนุมวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุมจนมีผู้บาดเจ็บที่ตรวจสอบได้แล้วในขณะนี้อย่างน้อย 31 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ถูกยิงด้วยกระสุนยาง 6 คน โดย 5 จาก 6 คนถูกยิงบริเวณเหนือเอวและผู้ชุมนุมไม่ได้มีท่าทีที่กระทำอันตรายต่อตำรวจ บางคนกำลังหลบออกจากพื้นที่ความรุนแรงเสียด้วยซ้ำ ซึ่งไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติว่าด้วยการใช้อาวุธที่มีความร้ายแรงต่ำในการบังคับใช้กฎหมาย คือ พายุที่ดวงตาขวาสูญเสียการมองเห็น, ผู้ชุมนุมชายที่หลัง, ผู้ชุมนุมหญิงที่หัวคิ้วซ้าย, ผู้ชุมนุมชายที่จ่อยิงที่ช่องท้องส่วนบนและผู้ชุมนุมชายที่ต้นแขนขวาด้านหลังระหว่างหันหลังวิ่งกลับไปที่ลานคนเมือง