- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
ฐานข้อมูลคดี
Stared
ชื่อคดี
ผู้ต้องหา
'บาลี'
สถานะคดี
คำอธิบายสถานะคดี ภาษาไทย
ชั้นศาลชั้นต้น
สถานะผู้ต้องหา
ได้รับการประกันตัว
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา
เนื้อหาคดีโดยย่อ
คดีของ ‘บาลี’ เป็นหนึ่งในชุดคดีมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นของกลุ่มสหพันธรัฐไท คดีนี้จำเลยถูกกล่าวหาตามมาตรา 116 และ 209 ของประมวลกฎหมายอาญาจากการสวมเสื้อสีดำที่หน้าอกมีสัญลักษณ์แถบสีขาวแดงขาวที่อาจเชื่อมโยงกับกลุ่มสหพันธรัฐไทที่บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รามอินทรา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2561 คดีนี้จะมีนัดสืบพยานในวันที่ 18-21 กุมภาพันธ์ 2563
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ไม่เปิดเผย
ข้อกล่าวหา
สร้างความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่อง ก่อความไม่สงบ
-
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ
การดำเนินคดี, การคุกคามโดยตำรวจ/ทหาร
-
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
-
ศาล
ศาลอาญา
11 เมษายน 2562 เวลาประมาณ 14.40 น. ขณะที่ ‘บาลี’ กำลังเดินผ่านจุดคัดกรองตรวจสอบประวัติบุคคลบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จ.นนทบุรี ตำรวจได้แสดงตัวว่า ‘บาลี’ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 14 มกราคม 2562 กล่าวหาว่า ‘บาลี’ กระทำความผิดฐานยุยงปลุกปั่นและอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ 209 จากนั้นตำรวจจึงควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวน ที่กองกำกับการหนึ่ง กองบังคับการปราบปราม
5 ธันวาคม 2561
นัดสอบคำให้การ
นัดตรวจพยานหลักฐาน
นัดตรวจพยานหลักฐาน
-
นัดสืบพยานโจทก์
พยานโจทก์ปากที่หนึ่ง พ.ต.ท.แทน ไชยแสง กองกำกับการสอง กองบังคับการตำรวจสันติบาลสอง
พ.ต.ท.แทนเบิกความว่า มีหน้าที่สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับสถาบันหลักของชาติ เกี่ยวเนื่องในคดีนี้ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนติดตามเกี่ยวกับกลุ่มที่มีพฤติกรรมต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐบาลคสช. กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และหลบหนีหมายจับไปที่ประเทศลาว กัมพูชาและเวียดนาม ประกอบด้วยชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือลุงสนามหลวงหรือสหายปรีชา วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณหรือสหายหมาน้อย สยาม ธีรวุฒิและกฤษณะ ทัพไทย
ทั้งหมดมีลักษณะเป็นแกนนำที่มีพฤติการณ์ในการจัดรายการทางเว็บไซต์ยูทูปเพื่อปลุกระดมแนวร่วมในประเทศไทยเพื่อให้เกิดการต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีคำขวัญคือต่อต้านสถาบันกษัตริย์ สถาปนาสหพันธรัฐไท ศาลอ่านข้อความในเอกสารให้พ.ต.ท.แทนฟังว่า ล้มล้างระบอบxxxx สถาปนากลุ่มสหพันธรัฐไท จากนั้นจึงถามว่า ข้อความดังกล่าวเป็นคำขวัญของสหพันธรัฐไทใช่หรือไม่ พ.ต.ท.แทนรับว่า ใช่ พร้อมกล่าวว่า พอดีจำ[รายละเอียด]ไม่ค่อยได้
พ.ต.ท.แทนเบิกความย้ำอีกครั้งว่า วัตถุประสงค์ของสหพันธรัฐไทคือ ล้มล้างสถาบันฯ สถาปนาการปกครองแบบสหพันธรัฐไทโดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข เขาได้ทำรายงานการสืบสวนและถอดเทปรายการของกลุ่มสหพันธรัฐไทเสนอต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อรายงานสถานการณ์ของกลุ่มดังกล่าวและแจ้งเตือนข่าวสารให้แก่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เหตุที่ทราบว่า สมาชิกในกลุ่มไลน์ที่ชื่อว่า ป้าจอมซน 10010002 และจำเลยเป็นคนๆเดียวกัน เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ที่แสดงตัวเข้าตรวจสอบที่เซ็นทรัล รามอินทราในวันนั้นได้ถ่ายรูปบัตรประชาชนของจำเลยไว้เช่นกัน นอกจากนั้นสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า ป้าจอมซน10010002 ยังได้โพสต์ข้อความทำนองว่า เซ็นทรัล รามอินทรามาถึงแล้วนะคะ เดินช็อปไปเรื่อยๆ ลักษณะของการโพสต์คือรายงานสถานการณ์ให้สมาชิกกลุ่มรับทราบ จากนั้นสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า ป้าจอมซน10010002 ได้โพสต์ข้อความทำนองว่า บอกตรงๆไม่มั่นใจค่ะว่า ในกลุ่มอาจจะมีเจ้าหน้าที่ อย่างวันนี้สงสัยมากกว่า ทำไมถึงเจาะจงมาที่เรา จากข้อความดังกล่าวจึงเชื่อว่า จำเลยและป้าจอมซนเป็นคนเดียวกัน ต่อมาสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า ป้าจอมซนได้เปลี่ยนชื่อเป็นยูเรนัสและออกจากกลุ่มไป
ทนายจำเลยถามว่า วันที่ 5 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.แทนได้ไปดูสถานการณ์ที่เดอะมอลล์ บางกะปิที่เดียวใช่หรือไม่ พ.ต.ท.แทนรับว่า ใช่ ส่วนที่อื่นนั้นได้รับข้อมูลมาจากการรายงานจากประชาคมข่าวที่ขนาดใหญ่มาก จำไม่ได้ว่า เจ้าหน้าที่รายใดเป็นผู้รายงาน ทนายจำเลยถามว่า พฤติการณ์ในการชุมนุมที่พ.ต.ท.แทนได้ทำเอกสารสรุปนั้นบอกว่า ที่เซ็นทรัล รามอินทรา สถานที่เกิดเหตุในคดีนี้มีสองรายเท่านั้น เพราะเหตุใด พ.ต.ท.แทนตอบว่า เนื่องจากได้รับรายงานมาเพียงเท่านี้
ทนายจำเลยถามว่า การชูสามนิ้วนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่นักศึกษาใช้ในการต่อต้านรัฐประหารใช่หรือไม่ พ.ต.ท.แทนตอบว่า เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ กลุ่มสหพันธรัฐไทมองว่า ระบอบxxxxเป็นเผด็จการ ทนายจำเลยถามว่า พล.อ.ประยุทธ์เคยโดนนักศึกษาชูสามนิ้วใส่ด้วยใช่หรือไม่ พ.ต.ท.แทนตอบว่า ไม่ทราบและไม่เกี่ยวข้องด้วย ทนายจำเลยถามว่า จำเลยมีการโพสต์ข้อความเรื่องที่ตำรวจ 15 นายไปที่บ้านพัก พ.ต.ท.แทนตอบว่า ไม่ทราบ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าว ทนายจำเลยถามว่า พ.ต.ท.แทนได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กของจำเลยด้วยตัวเองใช่หรือไม่ พ.ต.ท.แทนรับว่า ใช่ ทนายจำเลยถามต่อว่า ที่เบิกความไปว่า จำเลยมีเพื่อนในเฟซบุ๊กที่ต่อต้านสถาบันฯสองคนนั้น พ.ต.ท.แทนทราบหรือไม่ว่า เพื่อนในเฟซบุ๊กคนอื่นๆจะมีจุดยืนอย่างไร พ.ต.ท.แทนตอบว่า ไม่ได้มีการตรวจสอบ ดูเฉพาะที่แสดงออกชัดเจน หากมีการโพสต์ก้ำกึ่งก็ให้โอกาสกลับตัว
อัยการถามติง
ร.ต.อ.พรชัย เบิกความว่า เกี่ยวข้องกับคดีนี้เนื่องจากก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ผู้บังคับบัญชาที่สน.บางเขนได้ทราบข้อมูลว่า กลุ่มสหพันธรัฐไทที่มีวัตถุประสงค์ต่อต้านระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะสวมใส่เสื้อดำเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆในกรุงเทพมหานครในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของรัชกาลที่เก้า ปกแล้วจะมีการเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปสวมใส่เสื้อเหลือง จึงให้ทำการสืบสวน โดยมีพ.ต.ท.นิเวศ เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนและตนเป็นรองหัวหน้าชุดสืบสวน
พยานเบิกความว่า อายุ 36 ปี ขณะเกิดเหตุเป็นสารวัตรสืบสวนสน.บางเขน มีอำนาจในการสืบสวนและจับกุมตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา วันเกิดเหตุได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มสหพันธรัฐไทรวมตัวกัน มีการสวมใส่ชุดดำ จึงไปตรวจสอบที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รามอินทรา ซึ่งเป็นท้องที่รับผิดชอบของสน.บางเขน กลุ่มดังกล่าวมีแนวคิดไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อต้านระบบเผด็จการ
นัดสืบพยานจำเลย