1259 1351 1553 1360 1383 1682 1138 1510 1988 1177 1085 1454 1529 1014 1139 1326 1520 1817 1313 1726 1062 1900 1919 1818 1617 1014 1767 1860 1213 1612 1381 1751 1615 1975 1744 1624 1106 1007 1934 1932 1820 1252 1415 1882 1987 1982 1432 1269 1300 1975 1943 1851 1122 1075 1683 1607 1954 1089 1972 1999 1466 1326 1712 1946 1839 1055 1519 1832 1764 1697 1914 1950 1163 1237 1010 1092 1214 1375 1014 1938 1241 1635 1898 1401 1372 1107 1402 1153 1096 1700 1625 1584 1212 1765 1280 1079 1695 1281 1180 โควิดระลอกสาม : การคุกคามและคดีความที่เกี่ยวเนื่องกับการเรียกร้องในสถานการณ์โควิด 19 | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

โควิดระลอกสาม : การคุกคามและคดีความที่เกี่ยวเนื่องกับการเรียกร้องในสถานการณ์โควิด 19

 
 
1845
 
 
เข้าสู่ปีที่สองของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ผ่านมาไทยเผชิญกับไวรัสดังกล่าวสามระลอกคือ ระลอกหนึ่งและสอง ในเดือนมีนาคมและธันวาคม 2563 และระลอกสาม ในเดือนเมษายน 2564  ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุด ประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องคือ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคของรัฐที่ยังไม่ได้สัดส่วนต่อความเสียหายทางธุรกิจและโอกาสในการเลี้ยงชีพและการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้าและในระยะแรกจำกัดอยู่สองชนิดคือ แอสตร้าเซเนก้าและซิโนแวค 
 
ข้อถกเถียงที่นำมาสู่การคุกคามตั้งแต่การทำร้ายร่างกายไปจนถึงคดีที่มีโทษหนักอย่างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  ไม่น้อยกว่าหกคดี  ในจำนวนนี้ห้าคดีเป็นการวิจารณ์เรื่องวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ที่มีรัชกาลที่สิบถือหุ้นส่วนเป็นอันดับหนึ่ง ก่อนหน้านี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเรียกขานบริษัทนี้ว่า เป็นบริษัทในพระปรมาภิไธย และ "เมื่อรับวัคซีนมาแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งอันนี้ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานให้บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์" นำมาซึ่งวลี #วัคซีนพระราชทาน ขณะที่อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเชื่อว่า การฝากความหวังไว้ที่แอสตร้าเซเนก้าของรัฐบาลไทยครั้งนี้คือ การแทงม้าเต็ง
 

 

เจ้าหน้าที่ไอคอนสยามตบหน้าเบนจาระหว่างถือป้ายวิจารณ์วัคซีน
ผู้เสียหาย : เบนจา อะปัญ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
ผู้กระทำผิด : เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของไอคอนสยาม
 
1846
 
กรุงเทพฯ - 19 มกราคม 2564 ที่ไอคอนสยาม ฝั่งท่าเรือ เบนจา อะปัญ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมชูป้าย “ผูกขาดวัคซีน หาซีนให้เจ้า” จากนั้นรปภ.ดึงป้ายไป เบนจาจึงไปดึงป้ายชื่อของเจ้าหน้าที่ห้างเพื่อดู แต่ป้ายชื่อขาดติดมากับมือเบนจา เจ้าหน้าที่ห้างจึงตบแก้มซ้ายของเบนจาและดึงป้ายชื่อกลับ รวมทั้งมีการยึดโทรศัพท์และป้ายข้อความไปด้วย ต่อมาเบนจาได้เข้าแจ้งความที่สน.ปากคลองสาน ขณะที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวก็ได้มาแสดงตัวเช่นกัน ตำรวจมีการเปรียบเทียบปรับเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเป็นเงิน 1,000 บาทตามมาตรา 391 เรื่องการทำร้ายร่างกายไม่ถึงขนาดเป็นอันตราย
 
ด้านไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก พร้อมพวกพากันไปรวมตัวที่บริเวณลานท่าเรือไอคอนสยามและชูป้ายข้อความเดิม พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และห้างออกมากล่าวขอโทษ ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ของห้างอีกคนหนึ่งกระชากที่คอของภูมิ-ศศลักษณ์ สุขเจริญ จนเป็นเหตุวิวาทะกัน ต่อมาเวลา 18.38 น. ผู้บริหารไอคอนสยามแถลงระบุว่า ทางห้างมีนโยบายให้ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างประนอมรอมชอม ทางห้างจะตรวจสอบและลงโทษตามกระบวนการต่อไป รวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้น ภาณุพงศ์ประกาศยุติการชุมนุม
 
ในวันเดียวกันไอคอนสยามโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กของห้างระบุว่า  จะเร่งสอบสวนเรื่องดังกล่าวและลงโทษหากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมีความผิดจริง  อย่างไรก็ตามไอคอนสยามได้ขอความร่วมมือไม่จัดกิจกรรมหรือการแสดงออกใดๆ ที่ ไม่เหมาะสมในพื้นที่ของไอคอนสยาม เหตุการณ์นี้ทำให้ #แบนไอคอนสยาม ถูกทวีตกว่า 521,000 ครั้งบนทวิตเตอร์จนติดเทรนด์ยอดนิยมในไทย
 
อ้างอิง
https://www.mobdatathailand.org/case-file/1612517128723/
https://prachatai.com/journal/2021/01/91276
 
 
 
ธนาธร ปมไลฟ์เฟซบุ๊กกรณี “วัคซีนพระราชทาน ใครได้-ใครเสีย”
ผู้ถูกกล่าวหา : ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ผู้กล่าวหา : อภิวัฒน์ ขันทอง
ข้อกล่าวหา : ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ 
 
1847
 
กรุงเทพฯ - บีบีซีไทยรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้อภิวัฒน์ ขันทองในฐานะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและทนายความของพล.อ.ประยุทธ์ฯ แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธาณคณะก้าวหน้า ฐานเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ   สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 เวลา 21.30 น. จากการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก “Thanathorn Juangroongruangkit-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”  ในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน: ใครได้ใครเสีย?” ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการวิจารณ์นโยบายจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ว่าเป็นไปด้วย  “ความล่าช้า”และเป็นการ “ทุ่มหมดหน้าตัก” ให้กับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าจากสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรง
 
ในชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานเชื่อได้ว่า เนื้อหาของไลฟ์ดังกล่าวนั้นเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จึงออกหมายเรียกให้ธนาธรมารับทราบข้อกล่าวหา วันที่ 30 มีนาคม 2564 ธนาธรเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายข้างต้นและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมย้ำชัดว่า เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อปกป้องผลประโชน์ของประชาชนทุกคน  นอกจากคดีมาตรา 112 แล้วยังมีกรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้ระงับการเผยแพร่ไลฟ์ดังกล่าว แต่ศาลสั่งยกคำร้องระบุว่า เนื้อหาของไลฟ์มุ่งเน้นการกล่าวหารัฐบาลบกพร่อง ข้อมูลเรื่องผู้ถือหุ้นเป็นเพียงส่วนน้อย ไม่เป็นประเด็นหลักในการนำเสนอ ไม่สามารถเห็นได้ชัดเจนถึงกับกระทบความมั่นคง 
 
อ้างอิง
https://www.bbc.com/thai/thailand-57312017
https://www.prachachat.net/general/news-598681
https://www.matichon.co.th/politics/news_2567766
 
 
 
เพนกวิน-เบนจา ปราศรัย “กระชากหน้ากากสยามไบโอไซน์” 
ผู้ถูกกล่าวหา : พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ เบนจา อะปัญ
ผู้กล่าวหา : รพีพงษ์ ชัยยารัตน์ (ผู้กล่าวหาเบนจา) 
ข้อกล่าวหา : ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯและการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้ขออนุญาต
 
1848
 
กรุงเทพฯ - 25 มกราคม 2564 หน้าอาคารศรีจลุทรัพย์ ที่ทำการของสยามไบโอไซเอนซ์ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์และเบนจา อะปัญจัดการปราศรัย "กระชากหน้ากากสยามไบโอไซน์" ตั้งคำถามเช่น เหตุใดประเทศไทยจึงใช้วัคซีนจากสองแหล่งเท่านั้นคือ ซิโนแวคและแอสตราเซนกา, เหตุใดไทยถึงได้วัคซีนล่าช้า และขอให้รัฐบาลเปิดข้อตกลงการจัดหาวัคซีน นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตถึงความน่าเชือถือของสยามไบโอไซเอนซ์ที่เพิ่งรับผลิตวัคซีนเป็นครั้งแรก
 
ต่อมาศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ ในฐานะประชาชนทั่วไป แจ้งความดำเนินคดีกับเบนจา ต่อมาวันที่ 11 มีนาคม 2564 เบนจาได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน. ปทุมวัน พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวและไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา ในส่วนของเพนกวิน พ.ต.ท. เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รอง ผกก. (สอบสวน) สน. ปทุมวัน ได้เดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาต่อเพนกวินซึ่งถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดี 112 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา
 
 
อ้างอิง
https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10164951242440551
https://tlhr2014.com/archives/26869
 
 
 
 
นศ. ลำปางโดนแจ้งม.112 ปมแขวนป้ายผ้า “งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID-19”
ผู้ถูกกล่าวหา : พินิจ ทองคำ, วรรณพร หุตะโกวิท, ภัทรกันย์ แข่งขัน, ยุพดี กูลกิจตานนท์และหวาน (นามสมมติ)
ผู้กล่าวหา : พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม รองผู้กำกับสอบสวนสภ.เมืองลำปาง
ข้อกล่าวหา : ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ. ความสะอาดฯ
 
1849
 
ลำปาง - 25 มกราคม 2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองลำปาง แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้งห้าราย ได้แก่ พินิจ ทองคำ นักศึกษาวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และสมาชิกกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน, วรรณพร หุตะโกวิท บัณฑิตคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และสมาชิกกลุ่ม NU-Movement, ภัทรกันย์ แข่งขัน นักศึกษาคณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, ยุพดี กูลกิจตานนท์ แม่ค้าในจังหวัดลำปาง และหวาน (นามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ด้วยมาตรา 112 จากกรณีแขวนป้ายผ้าที่มีข้อความเขียนว่า “งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID-19” บริเวณสะพานรัษฎาภิเศกเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 
 
วันที่ 25 มกราคม 2564 ผู้ถูกกล่าวหาทั้งห้าได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ทางตำรวจได้ขอตรวจและเก็บดีเอ็นเอของผู้กล่าวหาอีกด้วย มูลเหตุของคดีนี้เกิดขึ้นในขณะที่ ร.ต.อ.วิเชียร ดอนชาไพร ผู้ปฏิบัติหน้าที่เวรสืบสวน ระหว่างวันที่ 30 ธค. 2563 เวลา 09.00 น. ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 09.00 น. ตรวจพบโพสต์ภาพที่มีป้ายผ้าแขวนอยู่บริเวณสะพานรัษฎาภิเศกจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ “กลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน” 
 
โดยป้ายภาพนี้ได้ถูกยึดในเวลาต่อมาหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำปางและเจ้าหน้าที่สายตรวจเวรไปตรวจ ณ สถานที่เกิดเหตุ จึงได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้มีความเชื่อว่าทั้งห้าคนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้  ก่อนหน้านี้วันที่ 18 มกราคม 2564 ได้มีการขอหมายศาลเข้าตรวจค้น คณะก้าวหน้าจังหวัดลำปางและบ้านพักนักศึกษาสองราย และยึดสิ่งจำนวน 7 รายการ ได้แก่ ป้ายไวนิล ถังสีแดงและเหลือง ขวดตัดครึ่งสำหรับผสมสี แปรงทาสี และเชือกฟาง ก่อนมีการส่งหมายเรียกตามมาตรา 112 
 
ทั้งนี้ตำรวจระบุว่า การขอเก็บดีเอ็นเอกระพุ้งแก้มเพิ่มเติมนั้นเป็นไปเพื่อขอเก็บหลักฐาน โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีความอาญา นอกจากนี้ตำรวจยังได้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือสำหรับประวัติอาชญากรรมและปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 
 
 
อ้างอิง https://tlhr2014.com/archives/25502
 
 
แอดมินเพจเชียงรายปลดแอกโดนบุกจับ 112 อ้างป้าย “งบสถาบัน>งบเยียวยาประชาชน”
ผู้ถูกกล่าวหา : สุปรียา ใจแก้ว
ผู้กล่าวหา : พ.ต.ท. ภาสกร สุขะ
ข้อกล่าวหา : ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ  และพ.ร.บ.ความสะอาดฯ
 
1851
 
เชียงราย - มติชนออนไลน์รายงานว่า วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564  เวลาประมาณ 16.00 น. ตำรวจสภ.เมืองเชียงรายจับกุมสุปรียา ใจแก้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายซึ่งเป็นหนึ่งในแอดมินเพจเฟซบุ๊ก Free Youth CEI-เชียงรายปลดแอกตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงรายที่ 20/2564  ผู้ร้องคือ พ.ต.ท.ภาสกร สุขะ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ระบุเหตุผลที่ออกหมายจับว่า ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งต่อสุปรียาว่า เหตุสืบเนื่องจากวันที่ 4 มกราคม 2564 เวลา 03.30 น. ผู้ต้องหาได้นำป้ายข้อความ “งบสถาบัน>งบเยียวยาประชาชน” ไปแขวนที่ป้ายข้อความ "ทรงพระเจริญ"  ซึ่งมีพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่สิบบริเวณห้าแยกพ่อขุนเม็งราย  และเพจเฟซบุ๊ก Free Youth CEI-เชียงรายปลดแอก ที่มีผู้ต้องหาดูแลได้แชร์ภาพดังกล่าวด้วย คณะพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ต้องหาเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 
 
 
อ้างอิง 
https://tlhr2014.com/archives/26313
https://prachatai.com/journal/2021/02/91861
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_2597185
 
 
 
อายัดซ้ำโตโต้-ปิยรัฐ แกนนำวีโว่ กรณีป้ายวิจารณ์วัคซีนโควิด-19
ผู้ถูกกล่าวหา : ปิยรัฐ จงเทพ
ผู้กล่าวหา : พ.ต.ท. ไพศาล ใจเกษม
ข้อหา : ประมวลกฎหมายอาญา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 
 
1852
 
กาฬสินธุ์ - ประชาไทรายงานว่า วันที่ 2 เมษายน 2564 หลังจากที่ศาลอาญาให้ประกันตัวโตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ We Volunteer ในข้อหาอั้งยี่ ตำรวจเข้าทำการอายัดตัวเขาภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตามหมายจับมาตรา 112 ที่ออกโดยศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในวันเดียวกัน เหตุสืบเนื่องมาจากกรณีที่โตโต้ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้จัดทำป้ายไวนิลไปติดบริเวณทางสาธารณะในพื้นที่อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์จำนวนเจ็ดแผ่น เนื้อหาวิจารณ์การจัดซื้อวัคซีนของรัฐบาลและมีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ฯ 
 
หลังจากนั้นได้นำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กชื่อ “โตโต้ ปิยรัฐ -Piyarat Chongthep” และทวิตเตอร์ชื่อ “We Volunteer” พนักงานสอบสวนพิจารณาว่า เข้าข่ายหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำมาซึ่งการขออำนาจศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ออกหมายจับ ต่อมาศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้โตโต้ต้องถูกคุมขังต่อไป จนกระทั่งวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้วางหลักทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาทและติดกำไลอีเอ็ม (Electronics Monitoring)
 
อ้างอิง
https://www.voicetv.co.th/read/jW7fFfeGe
https://prachatai.com/journal/2021/04/92406
 
 
 
ฮาร์ท นักร้องดัง โดน 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์วัคซีนโควิด-19 “ยาเจ้านาย ขายไม่ออก”
ผู้ถูกกล่าวหา : สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล 
ผู้กล่าวหา : อภิวัฒน์ ขันทอง
ข้อกล่าวหา : ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ
 
1853
 
กรุงเทพฯ - ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า ในวันที่ 13 พ.ค. 2564 อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าพบ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รองผู้กำกับ (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ ฮาร์ท-สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล กรณีโพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์มาตรการวัคซีนของรัฐ
 
คดีนี้เริ่มต้นจากการโพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กของ สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ ฮาร์ท อดีตพิธีกรและนักร้องชื่อดัง ซึ่งมีข้อความว่า “ยาเจ้านายขายไม่ออก สต๊อคไม่เคลื่อนที่ ลิ่วล้อต้องออกมาช่วยเรื่องการตลาด (ผมไปก๊อปคนอื่นเขามาอีกที) #ผูกขาดวัคซีนนี่ถ้าไม่เหี้ยมจริงนี่ทำไม่ได้นะ” อภิวัฒน์ระบุว่า แม้ข้อความเหล่านั้นจะถูกคัดลอกมาจากผู้อื่นและหลังจากตรวจสอบก็พบว่ามีการใช้ในลักษณะนี้หลายครั้งจึงเล็งเห็นว่าเป็นการเจตนา ซึ่งทำให้คนเข้าใจผิดว่า “เจ้านาย”พาดพิงไปถึงกษัตริย์ ทั้งนี้ พ.ต.อ. ภูมิยศ เหล็กกล้าเสริมว่าจะรับเรื่องและหลักฐานไว้พิจารณาว่ามีความผิดจริงหรือไม่ พร้อมทั้งจะเรียกตัว ฮาร์ท สุทธิพงศ์มาให้ปากคำ รวมถึงจะดำเนินคดีต่อเจ้าของโพสต์ต้นทางเช่นกัน
 
 
อ้างอิง https://www.thairath.co.th/news/crime/2091108