1870 1696 1160 1765 1623 1080 1744 1605 1898 1868 2000 1226 1332 1178 1818 1458 1913 1282 1128 1090 1117 1355 1427 1401 1244 1828 1335 1033 1982 1243 1145 1487 1855 1131 1817 1735 1392 1796 1050 1144 1465 1539 1025 1468 1785 1807 1412 1990 1062 1250 1343 1814 1075 1555 1807 1421 1671 1071 1533 1704 1251 1248 1805 1931 1359 1747 1166 1437 1170 1368 1692 1247 1750 1060 1859 1601 1275 1773 1087 1948 1885 1148 1254 1293 1578 1401 1450 1634 1968 1484 1458 1937 1935 1814 1413 1469 1455 1349 1203 ฟรีตลอดทริป – เรื่องเล่าขณะ ‘พักร้อน’ พร้อมตำรวจของเอกชัย | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

ฟรีตลอดทริป – เรื่องเล่าขณะ ‘พักร้อน’ พร้อมตำรวจของเอกชัย

 
ช่วงเวลาที่ผ่านมา เป็นที่รับรู้กันว่า หากมีกิจกรรมสำคัญในบ้านเมือง เหล่าตำรวจทหาร ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบจะทำการติดตาม หรือเยี่ยมบ้านนักกิจกรรมทางการเมืองเพื่อสอบถามว่า จะไปร่วมกิจกรรมนั้นๆหรือไม่ และตบท้ายด้วยการขอร้องให้ไม่ไปร่วมกิจกรรม ถึงที่สุดกับบางกรณีหากขอร้องดีๆไม่ได้ก็อาจมีมาตรการต้องอุ้มไปเก็บไว้ที่ใดที่หนึ่งก่อน
 
 
สำหรับเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวคัดค้านคสช.และเรื่องอ่อนไหวทางการเมือง ที่เกี่ยวข้องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็เผชิญความพยายามสกัดกั้นไม่ให้แสดงออกทางการเมืองมาแล้วหลายครั้ง ทั้งพาเข้าค่ายทหารไปปรับทัศนคติ ควบคุมไปไว้ที่สถานีตำรวจก่อน หรือแม้กระทั่งพาตัวไป ‘พักร้อน’ ก็มีมาแล้วถึงสองครั้งด้วยกัน
 
 

 

1240

 

 

‘พักร้อน’ รอบแรก หลังโพสต์จะใส่เสื้อแดงช่วงงานพระบรมศพ ร.9

 
 
จุดเริ่มต้นของการ ‘พักร้อน’  อยู่ในปี 2560 ช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9  ในโลกออนไลน์มีการพูดกันว่า ประชาชนทุกคนควรใส่เสื้อสีดำ แต่เอกชัยไม่เห็นด้วยและมองว่า ใครจะใส่สีอะไรก็เรื่องส่วนตัวของแต่ละคน และเมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสต์รูปปืนและเขียนข้อความในทำนองข่มขู่ที่ไม่ใส่เสื้อสีดำ เขาจึงรู้สึกโมโหและประกาศทางเฟซบุ๊กว่า จะใส่เสื้อแดงออกไปข้างนอกบ้านในวันดังกล่าว
 
 
ต่อมาวันที่ 22 ตุลาคม 2560 ทหารนอกเครื่องแบบมาที่หน้าบ้านเอกชัย ย่านลาดพร้าว รวมแล้วประมาณ 26 คน พยายามจะควบคุมตัวเขา ทราบเหตุที่ต้องคุมตัวว่า ไม่ต้องการให้ร่วมงานพระราชพิธี เขาต่อรองกับทหารอยู่พักหนึ่งทหารถามว่า จะไปไหนให้เลือกระหว่างเข้าค่ายทหารหรือเที่ยวกาญจนบุรี สุดท้ายจึงตัดสินใจไปกาญจนบุรี และมีตำรวจคุมตัวไปไว้ในรีสอร์ที่กาญจนบุรีเป็นเวลา 5 วัน ก่อนจะปล่อยตัวในวันที่ 28 ตุลาคม 2560 (อ่านเรื่องเล่าจากเอกชัยเรื่องนี้ต่อได้ที่นี่)
 
 
กระทั่งทิ้งช่วงไปนาน หลังจากนั้นเอกชัยยังคงทำกิจกรรมการเมืองปกติ ประเด็นหลักคือเรื่องนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่เขาต้องเผชิญกับการลอบทำร้ายร่างกายและทรัพย์สินอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งต้องมีตำรวจมาคอยคุ้มครองความปลอดภัยอย่างเป็นทางการ ทำให้ในระยะหลังนี้ หากพบเจอเอกชัย หงส์กังวาน ก็จะต้องเจอตำรวจนอกเครื่องแบบอยู่ใกล้ตัวเขาด้วย
 
 

‘พักร้อน’ รอบสอง ห่วงกังวลจะร่วมงานอาเซียน

 
 
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เอกชัย หงส์กังวาน รายงานผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวเขามาพักร้อนกับครอบครัวที่พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อป้องกันไม่ให้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในระหว่างการจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน 2562 
 
 
เอกชัยเล่าว่า ประมาณวันที่ 31 ตุลาคม 2562 อยู่ๆตำรวจชุดคุ้มครองของเขาก็โทรมาหาบอกว่า ไปพัทยาไหม จองห้องเรียบร้อยแล้วนะไปสักสองสามวัน 2-3  บอกว่า จะพาไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ แต่ไม่ได้ถามเขาเลยว่า ว่างหรือเปล่า เอกชัยให้ความเห็นว่า ตำรวจคงคิดว่า เขาจะไปป่วนงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรือเปล่าจึงพาไปพัทยาแบบนี้ แต่เขาเห็นว่า ว่างอยู่และไม่ได้คิดจะสนใจเรื่องไปงานประชุมอาเซียน ประกอบกับได้เที่ยวก็ไปก็ได้
 
 
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ช่วงเช้าตำรวจนายดังกล่าวกับครอบครัวได้แก่ ภรรยาและลูกเล็กสองคน พร้อมด้วยตำรวจชุดคุ้มครองอีกนายหนึ่งเดินทางมารับเขาที่บ้าน หลังกระบะรถมีเตาบาร์บีคิวพร้อมสำหรับย่างอาหารทะเลด้วย เวลาราว 11.00 น. เดินทางไปถึงสวนสัตว์เปิดเขาเขียว อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทั้งหมดก็แวะพักทานอาหารกลางวันที่เขาเขียว อาหารมื้อแรกก็คือ ส้มตำ เอกชัยบอกว่า ภรรยาของตำรวจนายดังกล่าวเป็นคนชลบุรี จึงมีความรู้เรื่องพื้นที่ดังกล่าวมากก็ทำการแนะนำสถานที่
 
1241
 
แต่วันดังกล่าวฝนตกจึงไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่นัก จากนั้นออกเดินทางต่อไปที่พัทยาใต้ เวลา 18.00 น. เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ตำรวจจองห้องรีสอร์ตไว้สองห้องคือ ห้องของครอบครัวและห้องของเอกชัยกับนายตำรวจที่มาด้วยอีกคนหนึ่ง จากนั้นจึงออกมาทานอาหารเย็นและไปเดินเที่ยวที่แหลมบาลีฮาย และวอล์คกิ้งสตรีทพัทยา ก่อนจะกลับที่พักในช่วง 22.00 น.
 
 
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 เวลา 8.30 น. ทานอาหารเช้าที่รีสอร์ต จากนั้นออกไปเที่ยวที่หาดทรายแก้ว เอกชัยบอกว่า ตอนแรกตำรวจจะพาไปพัทยา แต่พัทยาคนเยอะเลยพามาที่หาดทรายแก้วแทน กิจกรรมคือ ทานอาหารเที่ยงเป็นส้มตำกับลาบที่ขายแถวนั้น จากนั้นก็ไปเล่นทรายและน้ำทะเลกับลูกๆของนายตำรวจ จนกระทั่งช่วงบ่ายคล้อยเดินทางกลับมาแวะตลาดนาเกลือ ซื้ออาหารทะเล แต่มีร้านบริการรับย่างให้ จึงนำอาหารทะเลให้ร้านย่างเลย ทำให้ไม่ต้องใช้เตาบาร์บีคิวที่นำมาด้วยแล้ว จากนั้นจึงกลับมาทานที่รีสอร์ต
 
 
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 ประมาณ 11.00 น. เดินทางกลับ โดยไปแวะที่ตลาดนาเกลือและอ่างศิลาก่อน เพื่อซื้ออาหารทะเลและอาหารแห้ง จากนั้นจึงไปแวะสวนสัตว์เขาเขียว ดูสัตว์ต่างๆ จากนั้นจึงมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ ประมาณ 18.00 น. ทั้งหมดแวะทานอาหารเย็นเป็นแมคโดนัลด์ที่จุดพักรถ ต่อมาเวลา 20.00 น. เอกชัยถึงบ้านพัก สิ้นสุดการ ‘พักร้อน’ ในรอบที่สองนี้
 
 
บทสนทนาการพูดคุยตลอดทั้งสามวันที่ผ่านมา มีแต่เรื่องทั่วไป ไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ ขณะที่เอกชัยไม่ต้องเงินค่าที่พัก ค่าอาหาร หรือค่าน้ำมันใดๆ นอกจากของส่วนตัวที่ต้องการซื้อเองเท่านั้น เอกชัยเล่าว่า ไม่รู้ว่า การเดินทางครั้งนี้มีสปอนเซอร์ออกค่าใช้จ่ายหรือไม่ แต่การ ‘พักร้อน’ รอบแรกมีนายตำรวจเป็นสปอนเซอร์ค่าใช้จ่ายให้ 5,000 บาท
 

 

ปรับทัศนคติ ทุบตี คดีความ หรือ ‘พักร้อน’ ไม่มีอะไรหยุดการเคลื่อนไหวได้

 
 
สำหรับการ ‘พักร้อน’ รอบสองนี้เอกชัยบอกว่า แปลกใจมากว่า ทำไมอยู่ๆมาชวนเขาไปเที่ยว การกระทำแบบนี้ไม่ได้ส่งผลหรือสร้างความหวาดกลัวให้แก่เขาเลย เอกชัยเล่าย้อนไปว่า ก่อนหน้าที่จะมีตำรวจชุดคุ้มครองชุดนี้ เวลาที่ทำกิจกรรมจะเป็นตำรวจสันติบาลโทรศัพท์มาพูดคุยต่อรองให้ลดหรือไม่ไปทำกิจกรรม แต่เขาไม่ยอม ยังคงยืนยันที่จะทำกิจกรรมต่อไป ต่อมาเขาเคลื่อนไหวเรื่องนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร พอไปถึงหน้างานกิจกรรมตำรวจสันติบาลก็จะบอกว่า พอได้รึยัง แค่นี้พอได้แล้ว ต่อมาเขาโดนทำร้าย ตำรวจเหล่านั้นก็ถามว่า เป็นไงล่ะ จะหยุดหรือยัง เขาก็ยืนยันว่า ไม่หยุด ตำรวจมักจะบอกว่า เขาเป็นคนที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เขายืนยันว่า “กูอ่ะคุยรู้เรื่อง แต่กูไม่ยอม”
 
 
ที่ผ่านมาทำกิจกรรมก็มีความเหนื่อยล้า แต่เอกชัยมองว่า เขายังโชคดีคือ ไม่ได้มีภาระมากมาย ไม่มีครอบครัวหรือธุรกิจ ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะไปคุกคามครอบครัว ธุรกิจอาชีพได้  แต่สำหรับเขาคุกคามครอบครัวไมได้ จะคุยก็ไม่ยอม ทำร้ายร่างกายหรือยัดคดีก็ยืนยันว่า จะไม่ยอม!

 

ชนิดบทความ: