1992 1866 1904 1294 1474 1795 1060 1931 1676 1959 1653 1862 1842 1696 1445 1938 1813 1147 1983 1520 1519 1211 1617 1918 1779 1176 1568 1211 1598 1336 1920 1480 1075 1448 1068 1515 1282 1166 1868 1191 1960 1077 1407 1939 1196 1048 1547 1848 1154 1682 1264 1811 1924 1445 1061 1436 1005 1549 1802 1417 1761 1113 1993 1932 1258 1371 1810 1068 1159 1523 1151 1241 1472 1569 1276 1272 1451 1346 1347 1592 1891 1127 1144 1433 1710 1524 1916 1018 1554 1663 1573 1869 1320 1469 1491 1271 1024 1081 1595 ศาลกัมพูชาเริ่มสอบคดีสองนักข่าวเป็นสายลับ | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

ศาลกัมพูชาเริ่มสอบคดีสองนักข่าวเป็นสายลับ

ผู้สื่อข่าวเรดิโอ ฟรี เอเชียที่ถูกจับกุมตัวและคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดีในเรือนจำด้วยข้อหาเป็นสายลับให้อเมริกาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 ถึงเดือนสิงหาคม 2561 ถูกนำตัวมาขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีครั้งแรกแล้ว 
 
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 ศาลแขวงพนมเปญเริ่มการพิจารณาคดี Uon Chhin และ Yeang Sothearin ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเรดิโอ ฟรี เอเชีย ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ทั้งสองถูกควมคุมตัวและกล่าวหาว่า เก็บข้อมูลอย่างผิดกฎหมายให้แก่ต่างชาติตามมาตรา 445 ของประมวลกฎหมายอาญาและมีการกล่าวหาเพิ่มเติมในภายหลังว่า ผลิตสื่อลามกอนาจารเพิ่มอีกข้อหา ซึ่งทำให้ทั้งสองจะต้องเผชิญกับโทษจำคุกระหว่างเจ็ดถึง 15 ปี ต่อมาพวกเขาถูกขังระหว่างรอการพิจารณาคดีเป็นเวลาเก้าเดือนก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในเดือนสิงหาคม 2561 หลังการเลือกตั้งทั่วไปในกัมพูชา หลังจากนั้นศาลแขวงพนมเปญก็มาพิจารณาคดีนี้นัดแรกในวันดังกล่าว
 
ในการพิจารณา Chhin ยืนยันต่อศาลว่าข้อมูลที่เขาส่งให้สำนักข่าวไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงใดๆ และขณะที่เขาถูกจับกุมนั้นอยู่ระหว่างที่เขากำลังสร้างห้องร้องคาราโอเกะและปฏิเสธว่า ห้องดังกล่าวเป็นการใช้งานอย่างลับๆของเรดิโอ ฟรี เอเชีย นอกจากนี้วิดีโอคลิปที่เขาส่งให้กับเรดิโอ ฟรี เอเชียภาคภาษากัมพูชานั้นเป็นเนื้อหาที่ได้รับการรายงานทั่วประเทศและไม่ใช่ความลับของรัฐ
 
ตอนหนึ่งในการพิจารณาคดีอัยการถาม chin ว่า เขาไม่ได้เป็นผู้สื่อข่าวแล้วยังจะส่งรายงานให้เรดิโอ ฟรี เอเชีย อีกทำไม ซึ่ง Chin ตอบว่า "ผมทำเพราะมันคือจิตวิญญาณของผม" ชินยอมรับว่าแม้จะไม่ได้ทำงานกับเรดิโอ ฟรี เอเชียล้วแต่เขายังคงส่งข้อมูลให้เรดิโอ ฟรี เอเชียต่อไป โดยยืนยันว่าสิ่งที่เขาส่งไปไม่ใช่ภัยต่อความมั่นคงอย่างแน่นอน และเมื่อถูกถามว่าเขาเกี่ยวข้องหรือเคยส่งข้อมูลให้ซีไอเอ (หน่วยข่าวกรองของสหรัฐ)หรือไม่ Chin ตอบว่า "ผมไม่รู้จักใครทั้งนั้น กระทั่งเอฟบีไป (สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ) ผมยังต้องไปกูเกิลดูเลยว่ามันคืออะไร"
 
ด้าน Sothearin เบิกความต่อศาลว่าเขามาที่ห้องพักของ Chin เพราะทราบว่า Chin ถูกควบคุมตัวจึงมาดูในฐานะพยานแต่เขากลับถูกควบคุมตัวเสียเอง ขณะที่ตำรวจหนึ่งในสองคนซึ่งเป็นผู้จับกุมทั้งสองให้การว่า พวกเขาเชื่อว่าห้องเช่าของ Chin ถูกเช่าไว้เพื่อทำการออกอากาศเพราะมันตั้งอยู่บนชั้นเจ็ดของอาคาร ทั้งนี้คดีผู้สื่อข่าวทั้งสองคนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแขวงพนมเปญซึ่งจะพิจารณาคดีนัดต่อไปในวันที่ 9 สิงหาคม 2562
 
คดีของผู้สื่อข่าวทั้งสองคนนับเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการกับสื่อมวลชนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกัมพูชา ในปี 2560 รัฐบาลกัมพูชาใช้มาตรการทางภาษีกับเดอะแคมโบเดีย เดลี่ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลกัมพูชาอย่างต่อเนื่องจนทำให้หนังสือพิมพ์ประกาศยุติการเผยแพร่หนังสือพิมพ์แบบกระดาษคงเหลือแต่การรายงานข่าวออนไลน์ ขณะที่เรดิโอ ฟรี เอเชีย ที่ Chhin และ Sothearin ทำงานก็ปิดสำนักงานในเดือนกันยายนปีเดียวกันเพราะกังวลว่าจะถูกจัดการด้วยมาตรการทางภาษี
 
1155
 
 Uon Chhin (ขวา) และ Yeang Sothearin (ซ้าย) ที่ศาลกรุงพนมเปญ ภาพจาก CCHR
ทั้งนี้ Sothearin ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลังว่า ตัวเขามีภรรยาน้องชายและลุงมาเป็นพยานในคดีนี้ แต่ทั้งหมดไม่ได้มาปรากฎตัวที่ศาล ศาลเพียงแต่ให้เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์อ่านคำให้การของพยานทั้งสามปากที่ให้ไว้กับผู้พิพากษาสืบสวน (Investigating Judge) แทน ส่วน Chin มีภรรยา ลูกชาย และลูกสาวให้การเป็นพยาน ส่วนฝ่ายอัยการมีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 6 - 7 นาย 
 
สำหรับแนวทางการต่อสู้คดี Sothearin ระบุว่าฝ่ายอัยการพยายามตั้งคำถามถึงความชอบด้วยกฎหมายของข่าวและวิดีโอที่เขาและChin ส่งไปให้สำนักงานใหญ่ของ Radio Free Asia ที่กรุงวอชิงตัน หลังสำนักงานของ RFA ในพนมเปญปิดตัวลง 
 
ขณะที่เขาและ Chin ต่อสู้คดีว่าช่วงหนึ่งสัปดาห์หลังสำนักงานของ RFA ปิดตัวลงพวกเขาส่งรายงานไปสองชิ้นจากนั้นจึงยุติการทำงานกับ RFA เท่ากับว่าพวกเขาทำงานกับ RFA ต่ออีกเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังสำนักงานในกรุงพนมเปญถูกปิด นอกจากนั้นสิ่งที่เขาส่งไปก็เป็นเพียงข่าวที่จะออกต่อสาธารณะเท่านั้นไม่ใช่ข้อมูลที่จะกระทบต่อความมั่นคงของกัมพูชาแต่อย่างใด
 
สำหรับคำถามของอัยการในประเด็นอื่นๆ Sothearin ระบุว่าอัยการถามถึงความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองกับหัวหน้างานเก่าที่ RFA ความสัมพันธ์กับสถานทูตสหรัฐประจำกรุงพนมเปญ รวมทั้งถามถึงห้องเช่าของ Chin ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้งสองถูกจับกุมตัวด้วย 
 
ด้าน Chak Sopheap ผู้อำนวยการศูนย์สิทธิมนุษยชนกัมพูชา (Cambodia Center for Human Rights - CCHR) องค์กรสิทธิมนุษยชนท้องถิ่นที่ติดตามคดีนี้ก็ให้สัมภาษณ์กับอัล จาซีราห์ทางอีเมลตอนหนึ่งว่า "สื่อมวลชนต้องได้รับการประกันให้สามารถทำงานของพวกเขาซึ่งรวมถึงการเปิดเผยการทุจริต การวิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะ และทั้งเปิดเผยการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้อย่างปลอดภัยและเป็นอิสระจากความกลัวต่อการได้รับผลกระทบที่เลวร้ายจากการทำหน้าที่"
 
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
 
https://www.aljazeera.com/news/2019/07/espionage-trial-rfa-journalists-starts-cambodia-190726070844918.html 
 
https://www.rfa.org/english/news/cambodia/trial-07262019170337.html
 
 
ภาพประกอบต้นฉบับจาก CCHR
ชนิดบทความ: