1710 1153 1490 1019 1950 1555 1095 1681 1265 1835 1910 1341 1054 1957 1169 1063 1210 1571 1910 1993 1834 1159 1950 1909 1424 1905 1333 1081 1892 1218 1955 1940 1499 1865 1100 1268 1404 1864 1267 1568 1516 1024 1718 1237 1144 1671 1737 1262 1120 1644 1985 1155 1339 1743 1792 1297 1783 1156 1428 1109 1848 1671 1390 1820 1060 1731 1375 1435 1906 1320 1487 1003 1940 1770 1553 1941 1660 1985 1544 1560 1268 1651 1177 1357 1262 1780 1295 1019 1943 1603 1669 1896 1154 1378 1685 1304 1229 1597 1040 คสช.แจงคดี 'เสรีพิศุทธิ์' ทำตามขั้นตอน-ไม่ใช่รายแรกที่วิจารณ์ คสช. แล้วโดนพ.ร.บ.คอมฯ | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

คสช.แจงคดี 'เสรีพิศุทธิ์' ทำตามขั้นตอน-ไม่ใช่รายแรกที่วิจารณ์ คสช. แล้วโดนพ.ร.บ.คอมฯ



จากกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า ทหารแอบแจ้งความดำเนินคดีกับเขา และเป็นความตั้งใจให้เขาต้องนอนคุกด้วยการบีบให้ตำรวจออกหมายจับบ่ายในช่วงบ่ายของวันเดียวกันซึ่งเป็นวันศุกร์ ต่อมาในวันที่ 1 ธันวาคม 2561 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. ชี้แจงว่า ทหารไม่ได้แอบร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แต่ดำเนินการอย่างเปิดเผย เมื่อพบข้อมูลว่าบุคคลใดให้ข้อมูลเป็นเท็จก็จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษไว้กับเจ้าหน้าที่ตำตำรวตามขั้นตอนปกติของกฎหมาย และทหารก็ไม่ได้บีบบังคับตำรวจแต่อย่างใด ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ของตัวเอง ที่ผ่านมาไม่ใช่เฉพาะกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เท่านั้น กลุ่มการเมือง หรือ นักการเมืองคนอื่นก็ถูก คสช.ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดี หากมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย

ขณะเดียวกันในวันที่ 3 ธันวาคม 2561 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ก็ระบุว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังไม่ได้ประสานขอเข้าพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

 

1085




สำหรับเหตุแห่งคดีนี้เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2561 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แสดงความคิดเห็นผ่านรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง วิพากษ์วิจารณ์คสช.มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า “ประชามติก็โกง รัฐธรรมนูญก็โกง” และต่อมานำมามีการนำวิดีโอคลิปของรายการดังกล่าวมาเผยแพร่ในเพจเฟซบุ๊ก "พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" ต่อมาเดือนกันยายน 2561 บก.ปอท. ออกหมายเรียกให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสและผู้ดูแลเฟซบุ๊กมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหามาตรา 14(2) ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ

ก่อนหน้าที่จะมีการแก้ไขพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในปี 2560 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14(1) มักจะถูกนำมาใช้ดำเนินคดีพ่วงกับกฎหมายหมิ่นประมาทเวลามีคนแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ในประเด็นสาธารณะและพาดพิงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ส่วนคนที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นการการเมือง กองทัพ หรือคสช. บนโลกออนไลน์ มักจะถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 (ข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ) หรือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (ข้อหายุยงปลุกปั่น) ควบคู่กับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 (2) และ (3)

หลังมีการแก้ไขพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แนวทางการร้องทุกข์กล่าวโทษคนที่แสดงความเห็นบนโลกออนไลน์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะกรณีของบุคคลที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง โดยแทนที่จะใช้วิธีฟ้องคดีตามประมวลกฎหมายอาญาหมวดความมั่นคง เช่น มาตรา 112 หรือ มาตรา 116 พ่วงกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯมาตรา 14 (2) และ (3) ก็เปลี่ยนมาเป็นดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯมาตรา 14 (2) อย่างเดียวแทน โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 14 (3) หรือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหมวดความมั่นคงเพิ่มเติม

ทั้งนี้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14(2) ซึ่งมีการแก้ไขในปี 2560 ได้มีการขยายความเนื้อหาการกระทำผิดให้กว้างขึ้น เป็น "นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน" จากเดิมที่ฉบับปี 2550 กำหนดไว้ว่า "นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน"

นอกจากกรณีของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็มีกรณีของผู้ถูกกล่าวหาในความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯมาตรา 14(2) อื่นๆที่น่าสนใจได้แก่ กรณีของศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจากการแชร์ภาพประกอบข้อความเกี่ยวกับกระเป๋าของภรรยาหัวหน้าคสช. กรณีเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าแชร์โพสต์จากเพจ CSI LA เรื่องกรณีการข่มขืนหญิงชาวอังกฤษที่เกาะเต่า กรณีการออกหมายจับ แอดมิน แฟนเพจ “KonthaiUk” โพสต์ข้อความเรื่องการจัดซื้อดาวเทียม และต่อมามีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าแชร์โพสต์ดังกล่าวอีกอย่างน้อยเจ็ดคนและมีผู้ถูกออกหมายเรียกจากกรณีเดียวกันอีกอย่างน้อย 20 คน และมีกรณีของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และกรรมการบริหารพรรคอนาคใหม่อีกสองคน ที่ถูกกล่าวหาในข้อหาเดียวกันจากการจัดรายการเฟซบุ๊กไลฟ์ที่เพจของพรรคอนาคตใหม่วิจารณ์เรื่องการดูดผู้สมัคร ส.ส. ให้ย้ายพรรค

ตลอดสี่ปีที่ผ่านมามีประชาชนถูกกล่าวหาตามมาตรา 14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯไม่น้อยกว่า 44 คนหรือ 23 คดี แต่เฉพาะปี 2561 มีไม่น้อยกว่า 25 คนหรือ 12 คดี อ่านสถิติมาตรา 14(2) ทั้งหมดที่นี่

ชนิดบทความ: