1090 1318 1761 1324 1441 1178 1550 1782 1791 1918 1768 1403 1485 1149 1709 1541 1775 1414 1251 1299 1780 1105 1642 1128 1408 1246 1919 1026 1876 1701 1138 1383 1101 1449 1536 1045 1225 1646 1038 1300 1821 1623 1196 1141 1825 1657 1084 1876 1839 1538 1072 1691 1734 1164 1111 1218 1011 1671 1490 1279 1655 1277 1977 1924 1478 1189 1044 1847 1217 1550 1476 1259 1610 1694 1742 1414 1910 1135 1845 1701 1520 1872 1771 1342 1730 1316 1661 1693 1506 1371 1361 1644 1477 1156 1838 1643 1749 1922 1233 จำคุกเก็ทอีกสามปีตาม ม.112 ยกฟ้อง "โจเซฟ" พูดเรื่องพระเจ้าตากสิน ศาลชี้ เป็นประวัติศาสตร์อีกมุมหนึ่ง | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

จำคุกเก็ทอีกสามปีตาม ม.112 ยกฟ้อง "โจเซฟ" พูดเรื่องพระเจ้าตากสิน ศาลชี้ เป็นประวัติศาสตร์อีกมุมหนึ่ง

3034
 
27 ธันวาคม 2566 ศาลอาญาธนบุรีพิพากษาว่า โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท มีความผิดตามมาตรา 112 จากกรณีปราศรัย “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 ที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ ให้ลงโทษจำคุกสามปี ส่วนจำเลยอีกคน คือ "โจเซฟ" ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะเนื้อหาปราศรัยไม่เข้าข่ายความผิด
 
ในวันอ่านคำพิพากษามีผู้มาให้กำลังใจและรับฟังคำพิพากษาด้วยเป็นจำนวนมาก เต็มห้องพิจารณาคดีที่ 11 ซึ่งทางศาลอาญาธนบุรีได้จัดถ่ายทอดสดการอ่านคำพิพากาษามายังห้อง 12 ด้วย เพื่อให้ผู้มาร่วมฟังคำพิพากษาเข้าฟังได้ โดยขอความร่วมมือในการรับฝากโทรศัพท์มือถือของทุกคนไว้ที่หน้าห้อง ก่อนจะเริ่มอ่านคำพิพากษา
 
คดีนี้มีจำเลยทั้งสิ้นสามคน คือ โสภณ, “โจเซฟ” และ มิ้นท์ ที่ร่วมปราศรัยในการชุมนุมดังกล่าวบริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ ซึ่งมิ้นท์ตัดสินใจลี้ภัยไม่ได้เข้าร่วมการพิจารณาคดีต่อทำให้เหลือจำเลยมาฟังคำพิพากษาสองคน โดยจำเลยในคดีนี้ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า กล่าวคำปราศรัยเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯตามมาตรา 112 และจำเลยทั้งคู่ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง
 
ระหว่างการสืบพยานคดีนี้ โสภณถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเนื่องจากศาลอาญาเคยพิพากษาให้จำคุกสามปีจากกรณีปราศรัยในกิจกรรม #ทัวร์มูล่าผัว ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 หลังศาลชั้นต้นพิพากษาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวอีก โดยในคดีนี้โสภณแถลงต่อศาลเพื่อขอถอนทนายความ รวมถึงปฏิเสธอำนาจศาลทั้งหมด และได้แถลงข้อเรียกร้อง 2 ข้อต่อศาลไว้ ได้แก่ 1.คืนสิทธิประกันตัวแก่ผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน 2.ยุติการดำเนินคดี 112 ทั้งหมด ในการสืบพยานเก็ทไม่ได้ถามค้าน ไม่ได้เบิกความ และยังนั่งหันหลังให้ผู้พิพากษาพร้อมถอดเสื้อชุดนักโทษที่กรมราชทัณฑ์ให้ใส่ด้วย
 
ในส่วนของความผิดตามมาตรา 112 ศาลวินิจฉัยว่า โสภณมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา เนื่องจากมีการปราศัยระบุถึงรัชกาลที่ 10 โดยตรง จนอาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจว่ารัชกาลที่ 10 ไม่ทรงงาน อีกทั้งอาจจะทำให้เข้าใจได้ว่ารัชกาลที่ 10 ทรงใช้ไสยศาสตร์ ถือเป็นการหมิ่นประมาทตามมาตรา 112 ให้ลงโทษจำคุกสามปี โดยก่อนหน้านี้โสภณถูกคุมขังอยู่ตามคำพิพากษาในคดีอื่นอยู่ก่อน จึงให้รับโทษต่อจากคดีเดิม ทำให้เก็ทต้องรับโทษต่อกันยาวเป็นหกปี
 
ขณะที่ในส่วนของ "โจเซฟ" ศาลพิพากษายกฟ้องในความผิดมาตรา 112 เนื่องจากศาลระบุว่า เนื้อหาในการปราศรัยว่า พระมหากษัตริย์เป็นสมมติเทพจริงหรือไม่นั้นจำเลยไม่ได้ระบุคำตอบแก่ประชาชน แต่เป็นการเชื้อเชิญให้ผู้ชุมนุมตั้งคำถามต่อเอาเอง อีกทั้งการระบุว่าพระเจ้าตากสินถูกรัชกาลที่ 1 สังหารก็เป็นประวัติศาสตร์อีกมุมหนึ่งที่ถูกนำเสนอเพียงเท่านั้น พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์จึงไม่เพียงพอในการชี้ชัดความผิดตามมาตรา 112
 
โดยจำเลยทั้งสองคนยังมีความผิดฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับเป็นเงิน 200 บาท