1297 1325 1963 1165 1600 1117 1626 1751 1503 1549 1660 1556 1477 1355 1908 1662 1974 1641 1093 1387 1867 1368 1075 1961 1598 1923 1450 1028 1081 1957 1914 1193 1605 1825 1640 1393 1715 2000 1880 1368 1468 1735 1770 1846 1148 1840 1420 1949 1867 1724 1985 1013 1878 1490 1972 1234 1149 1358 1734 1770 1005 1944 1641 1451 1666 1014 1291 1349 1040 1926 1697 1452 1129 1765 1013 1745 1143 1445 1580 1292 1071 1896 1334 1532 1083 1386 1617 1628 1649 1609 1927 1682 1041 1855 1023 1868 1453 1459 1007 ฟ้องด้วยภาพ "แคปไลน์" กลั่นแกล้งได้หรือไม่? คดีม.112 ของสุริยศักดิ์ มรดกตกค้างยุคศาลทหาร | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

ฟ้องด้วยภาพ "แคปไลน์" กลั่นแกล้งได้หรือไม่? คดีม.112 ของสุริยศักดิ์ มรดกตกค้างยุคศาลทหาร

 

25 สิงหาคม 2565 ศาลอาญาสืบพยานคดีมาตรา 112 ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ของสุริยศักดิ์ อดีตแกนนำนปช.สุรินทร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว และนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 5 ตุลาคม 2565 โดยคดีนี้ฝ่ายโจทก์มีหลักฐานเป็นเพียงกระดาษหนึ่งใบที่พิมพ์ภาพถ่ายจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เป็นภาพแชทไลน์ โดยเป็นภาพผู้ใช้ไลน์บัญชีที่ตั้งชื่อว่า “Suriyasak” ส่งข้อความคุยกันและมีข้อความกล่าวถึง "ระบอบกษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองมาหลายร้อยปี" โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่น
 
 
 
2557
 
 
สุริยศักดิ์ถูกจับกุม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2560 เวลาประมาณ 06.00 น. ที่บ้านในจังหวัดสุรินทร์ โดยทหารในเครื่องแบบหลายหน่วย ขณะถูกจับเขาอายุ 49 ปี เขาและผู้ต้องหาคนอื่นรวม 9 คน ถูกจับพร้อมกันในข้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย โดยสะสมอาวุธและเกี่ยวข้องกับการชุมนุมคนเสื้อแดงในปี 2553 ระหว่างการแถลงข่าว สุริยศักดิ์แสดงความคิดเห็นว่า ขอปฏิเสธความเกี่ยวพันกับอาวุธที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด เพราะไม่ใช่แนวทางการเคลื่อนไหวของ นปช. เนื่องจาก นปช. เชื่อในแนวทางสงบสันติ ต่อมาในคดีเกี่ยวกับก่อการร้ายของผู้ต้องหาทุกคนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี ทำให้ทุกคนได้รับการปล่อยตัว 
 
แต่เมื่อได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 สุริยศักดิ์ถูกตำรวจมาอายัดตัวต่อเพื่อแจ้งข้อหาตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และส่งเขากลับเข้าไปในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ คดีของเขาอยู่ภายใต้ประกาศ คสช. ฉบับที่ 37/2557 และถูกส่งไปขึ้นศาลทหาร ซึ่งที่ศาลทหารเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวและการพิจารณาคดีก็ล่าช้าไม่ต่อเนื่อง ทำให้เขาถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเป็นเวลานานกว่าสองปี จนกระทั่งได้ประกันตัวในวันที่ 12 มิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นเวลาหลังจัดการเลือกตั้งทั่วไปและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อแล้ว หลังจากนั้นคดีของเขาซึ่งตกค้างอยู่ในศาลทหารก็ถูกสั่งให้โอนกลับมาพิจารณาคดีต่อที่ศาลปกติ
 
ศาลอาญานัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ในคดีนี้ในวันที่ 16-18 สิงหาคม 2565 โดยพล.อ.วิจารณ์ จดแตง นายทหารฝ่ายกฎหมายของคสช. ที่เป็นผู้กล่าวหาในคดีนี้ เบิกความว่า ได้รับเอกสารภาพถ่ายจากหน้าจอไลน์มาจากตำรวจสันติบาล ส่วนพล.ต.ท.สราวุฒิ การพาณิช ตำรวจสันติบาล ก็เบิกความว่า ได้รับภาพดังกล่าวมาจากสายลับที่เข้าไปตีสนิทกับสุริยศักดิ์ ส่วนพยานโจทก์ผู้ตรวจสอบโทรศัพท์ของจำเลยที่ยึดไปเบิกความว่า พบการติดตั้งแอพพลิเคชันไลน์ในโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่พบบัญชีไลน์ที่ชื่อ “Suriyasak” ที่ส่งข้อความตามฟ้อง เนื่องจากบัญชีไลน์อาจถูกลบไปแล้ว โดยพยานโจทก์หลายคนก็เบิกความต่อศาลยอมรับว่า บัญชีไลน์ปลอมแปลงได้ง่าย อาจมีผู้ที่เอาภาพและชื่อของบุคคลอื่นไปตั้งบัญชีใหม่ได้ แต่สาเหตุที่ฟ้องจำเลยคดีนี้เพราะเห็นว่า รูปโปรไฟล์ในไลน์มีภาพรถยนต์ ซึ่งหมายเลขทะเบียนจดทะเบียนด้วยชื่อของจำเลย
 
ด้านจำเลยเบิกความในวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ว่า ไม่ได้เป็นผู้ส่งข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ก่อนถูกจับกุมไม่เคยใช้ไลน์เพราะไม่ถนัดเทคโนโลยี หลังได้ปล่อยตัวก็ใช้งานไลน์แล้วแต่สายตาไม่ดีจึงใช้ในแท็บเล็ต นอกจากนี้ยังมีเฟซบุ๊ก ซึ่งใช้ภาพตัวเองตั้งเป็นโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก เป็นภาพเดียวกับที่ปรากฏเป็นโปรไฟล์ไลน์ในคดีนี้ โดยเชื่อว่าการดำเนินคดีนี้มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงเวลาที่ถูกจับกุม 
 
ในการทำคำพิพากษาคดีนี้ ศาลจึงต้องวินิจฉัยว่า ลำพังภาพถ่ายจากหน้าจอไลน์ว่า มีบัญชีชื่อและภาพคล้ายบุคคลหนึ่ง จะเพียงพอรับฟังว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ส่งข้อความเข้าไปในไลน์จริงหรือไม่ ติดตามผลคำพิพากษาได้ในวันที่ 5 ตุลาคม 2565 
 
 
 


ดูรายละเอียดคดีนี้เพิ่มเติมในฐานข้อมูล ได้ทาง https://freedom.ilaw.or.th/th/case/783#detail