1330 1019 1592 1436 1994 1491 1864 1415 1694 1312 1348 1616 1248 1949 1999 1618 1872 1053 1567 1015 1039 1031 1435 1816 1044 1408 1787 1390 1181 1274 1277 1508 1530 1611 1050 1657 1133 1993 1135 1698 1936 1572 1129 1757 1302 1491 1924 1728 1560 1550 1967 1701 1896 1668 1502 1211 1471 1159 1747 1913 1947 1629 1402 1324 1696 1572 1080 1761 1967 1008 1795 1906 1003 1867 1981 1800 1182 1798 1785 1546 1996 1142 1391 1052 1333 1827 1281 1393 1797 1035 1039 1704 1263 1806 1623 1528 1470 1694 1575 27 วันของ "แซม ทะลุฟ้า" ในเรือนจำ | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

27 วันของ "แซม ทะลุฟ้า" ในเรือนจำ

พรชัย ยวนยี หรือ "แซม ทะลุฟ้า" ถูกฝากขังในเรือนจำในคดีมาตรา 112 จากการเข้าร่วมการชุมนุม เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 โดยตำรวจกล่าวหาว่า แซมร่วมกันวางแผนเพื่อปาระเบิดเพลิงใส่พระบรมฉายาลักษณ์ที่อยู่บนสะพานลอยหน้าโรงเรียนราชวินิตแต่ไม่ลุกไหม้ เพราะก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนักทำให้ซุ้มเปียกชื้น แซมมีแผนการเดินทางไปต่างประเทศ จึงไปรายงานตัวเพื่อ "เคลียร์" หมายจับสำหรับการเดินทาง และถูกแจ้งว่า มีหมายจับในคดีนี้ เขาถูกฝากขังในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา โดยศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัว
 
2537
 
วันที่ 2 สิงหาคม 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยมแซม เพื่อปรึกษาเรื่องการยื่นคำร้องขอประกันตัว และได้อัพเดทการใช้ชีวิตของแซมในเรือนจำ ซึ่งทราบว่าแซมมีกำลังใจ และปรับตัวกับการใช้ชีวิตในเรือนจำได้ แซมเพิ่งครบเวลากักตัวดูอาการว่าติดโควิดหรือไม่ และถูกย้ายไปอยู่ที่แดน 4 ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จัดให้นอนห้องเดียวกันกับผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองคนอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทะลุแก๊ซรวม 13 คน แต่ไม่ได้อยู่ร่วมกันกับผู้ต้องขังที่มาจากกลุ่มทะลุฟ้า ในแดน 4 ยังมีเอกชัย หงส์กังวาน และสมบัติ ทองย้อยรวมอยู่ด้วย แต่เขาไม่มีโอกาสได้เจอสมบัติมากนัก เพราะสมบัติเป็นผู้ต้องขังตามคำพิพากษาต้องถูกจัดให้ไปทำงาน
 
แซมเล่าว่า ตารางเวลาในแต่ละวันของเขาเหมือนกัน คือ ต้องอยู่ในห้อง 15 ชั่วโมง และได้ลงมาเดินเล่นในแดน 8 ชั่วโมง กิจวัตรประจำวันของเขาคือการอ่านหนังสือในห้องสมุด ซึ่งมีหนังสือที่มีคุณภาพและน่าอ่านน้อยมาก แต่ก็ยังพอมี หนังสือเกี่ยวกับการเมืองที่เขาอ่านส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่มีคนส่งเข้าไปให้กับเพนกวิน พริษฐ์ เมื่อครั้งที่เพนกวินถูกคุมขังอยู่ที่นี่ เพนกวินเขียนชื่อตัวเองไว้ทุกเล่ม แซมเห็นแล้วก็เอาหนังสือเหล่านั้นมาไล่อ่าน ซึ่งเป็นหนังสือที่มีประโยชน์
 
สำหรับสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขา แซมบอกว่า อยู่ได้ ไม่แออัด บางห้องมีผู้ต้องขังอยู่รวมกันกว่าสามสิบคนซึ่งจะค่อนข้างอึดอัดมาก และเสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาดมาก แต่ห้องที่แซมและผู้ต้องขังกลุ่มทะลุแก๊สอยู่ด้วยกันมีเพียงสิบกว่าคน จึงยังพอมีพื้นที่อยู่บ้าง พวกเขาอยู่กันด้วยระบบ "ผ้าห่มสามผืน" คือ มีผ้าแจกให้สำหรับปูนอนหนึ่งผืน พับเป็นหมอนหนุนหนึ่งผืน และห่มอีกหนึ่งผืน ทุกคนได้รับจัดสรรเหมือนกันไม่มีใครได้นอนฟูก และแซมได้พบว่าในเรือนจำมีผู้ต้องขังที่ยากจน ไม่มีญาติมาเยี่ยม และเดือดร้อนเยอะมาก ผู้ต้องขังเหล่านี้จะทำงานแทนผู้ต้องขังที่มีเงินและรับค่าตอบแทน เขาได้ตกลงให้ "จ้างซักผ้า" ในราคาเหมาเดือนละประมาณ 300 บาท ส่วนผ้าห่มสามผืนคิดราคาค่าจ้างซัก 50 บาท
 
การใช้ชีวิตในเรือนจำนั้น ไม่ได้มีเงินสดให้จ่ายมือต่อมือ แต่ผู้ต้องขังที่มีญาติฝากเงินให้จะซื้อของจากร้านค้าสวัสดิการ แล้วเอาของเหล่านั้นมาใช้จ่ายเป็นเงิน เช่น นมหนึ่งกล่อง คิดเป็นราคา 10 บาท กาแฟซองแพ็คละ 100 บาท ผู้ต้องขังที่ได้รับของไปสามารถเอาไปแลกกลับเป็นเงินที่ร้านค้าสวัสดิการได้ สำหรับอาหารถ้าจะกินของที่ "โรงเลี้ยง" จัดให้ก็พอกินได้ แต่ถ้าจะซื้อกินเองสามารถสั่งที่ร้านค้าได้ ราคาจานละ 40-50 บาท ถ้าอยู่อย่างสบายๆ ก็มีค่าใช้จ่ายวันละประมาณ 150 บาท
 
ล่าสุดทนายความของแซมยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อคัดค้านการฝากขัง เพราะตำรวจไม่มีเหตุต้องควบคุมตัวแซมไว้ในระหว่างการสอบสวนอีก เนื่องจากแซมไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่มีอิทธิพลจะไปขัดขวางกระบวการสอบสวนได้ ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องคัดค้านการฝากขังในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลา 13.30 น. ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 4