1421 1683 1562 1054 1627 1698 1002 1837 1478 1591 1595 1336 1145 1632 1454 1485 1088 1541 1176 1681 1521 1160 1930 1358 1940 1540 1229 1856 1605 1729 1786 1934 1381 1525 1070 1361 1585 1113 1518 1922 1421 1993 1338 1024 1337 1002 1967 1998 1411 1906 1728 1072 1788 1827 1658 1765 1209 1729 1606 1491 1506 1065 1429 1820 1585 1321 1992 1625 1580 1085 1199 1316 1608 1956 1799 1155 1940 1777 1283 1208 1322 1179 1924 1092 1255 1741 1029 1863 1102 1850 1264 1206 1224 1572 1580 1375 1310 1215 1358 เวฟ นักกิจกรรมภูเก็ต อายุ 15 ถูกตำรวจโทรเตือน เหตุโพสต์ข้อความ “จุดแข็ง-จุดอ่อน” เกี่ยวกับระบอบการปกครอง | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

เวฟ นักกิจกรรมภูเก็ต อายุ 15 ถูกตำรวจโทรเตือน เหตุโพสต์ข้อความ “จุดแข็ง-จุดอ่อน” เกี่ยวกับระบอบการปกครอง

สืบเนื่องจากวันที่ 15 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 22.00 น. เวฟ ธีรยุทธ นักกิจกรรมเยาวชนอายุ 15 ปี จากกลุ่มภูเก็ตปลดแอก ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ได้รับสายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาเตือนให้ลบโพสต์ข้อความการเล่นมุก “จุดแข็ง-จุดอ่อน” เกี่ยวกับระบอบการปกครองของประเทศ
 
จากการติดต่อสอบถามของไอลอว์ เวฟเล่าว่าเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์เข้ามาในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ในวันเดียวกันหลังจากที่เขาโพสต์ข้อความดังกล่าวได้ไม่เกินห้าชั่วโมง โดยก่อนที่จะกดรับสาย เขาเล่าว่าตนเองทราบมาก่อนว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเคยได้รับสายเรียกเพื่อตักเตือนการกระทำลักษณะเดียวกันนี้ประมาณ 3-4 ครั้งในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นเบอร์โทรศัพท์เดิมและเจ้าหน้าที่คนเดิมซึ่งเวฟทราบมาว่าสังกัดอยู่ที่ สภ.เมืองภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้โทรมาพูดคุยสั้นๆ เพื่อขอให้ลบข้อความ พร้อมแจ้งว่า “ณ ขณะนี้มีหลายหน่วยงานกำลังจับตามองเขาอยู่” อย่างไรก็ตาม เวฟระบุว่ายืนยันที่จะไม่ลบข้อความ เนื่องจากมองว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะโพสต์ข้อความในพื้นที่ส่วนตัว
 
สำหรับการถูกคุกคามด้วยสายเรียกจากเจ้าหน้าที่ เวฟเล่าว่า ครั้งแรกเกิดขึ้นก่อนการเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ตของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเปิดตัวโครงการ Phuket sandbox เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยเจ้าหน้าที่ได้โทรมาสอบถามว่าทางกลุ่มภูเก็ตปลดแอกจะมีการจัดเตรียมกิจกรรมและเคลื่อนไหวอะไรบ้าง ตามมาด้วยสายเรียกเพื่อตักเตือนครั้งที่สอง ภายหลังกิจกรรมการทำโพลในหัวข้อ “วันวาเลนไทน์ปีนี้ คุณรักใครที่สุด” โดยมีตัวเลือกคือ ครอบครัว เพื่อน แฟน และราชวงศ์ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณถนนคนเดินหลาดใหญ่ จังหวัดภูเก็ต
 
2328
 

15 ย่าง 16 ปี กับ “1(+1) หมายเรียก”

 
ก่อนเข้ามาสู่โลกของนักกิจกรรม เวฟเล่าว่าเขาเคยถูกเลือกปฏิบัติในโรงเรียนด้วยการ “ตัดสิทธิ์โควตา” การเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนื่องจากการเคลื่อนไหวในประเด็นระบบการศึกษากับกลุ่ม “ภอวอขอประชาธิปไตย” มาอย่างต่อเนื่อง เช่น การชักชวนเพื่อนให้ใส่ชุดไปรเวท และการแจกโบว์ขาวภายในโรงเรียน โดยเวฟระบุว่า ผู้อำนวยการของโรงเรียนได้ใช้เหตุผลเรื่อง “ความไม่จงรักภักดีต่อชาติและพระมหากษัตริย์” เพื่อตัดสิทธิ์และส่งผลให้เขาต้องเข้าสอบใหม่อีกครั้ง
 
จุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวทางการเมือง เวฟเล่าว่าเขาเริ่มจับไมค์ปราศรัยครั้งแรกในการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2563 ที่สวนหลวง จังหวัดภูเก็ต โดยเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อต่อต้านการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวันเมื่อ 16 ตุลาคม 2563 ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมกับทางกลุ่มภูเก็ตปลดแอกเรื่อยมา และปัจจุบัน เวฟได้รับหมายเรียก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จำนวนหนึ่งฉบับ จากการเข้าร่วมกิจกรรม #คาร์ม็อบภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 อีกทั้งเขายังทราบมาว่า มีประชาชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมโพสต์ภาพ “ใบแจ้งความมาตรา 112” ที่ปรากฏชื่อของเขาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันยังไม่มีหมายเรียกส่งมาถึงที่พัก
 
นอกจากนี้ เนื่องจากเวฟเป็นสมาชิกภูเก็ตปลดแอกที่มักลงพื้นที่ปฏิบัติการในการชุมนุมบ่อยครั้ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจดจำใบหน้าของเขาได้และมักจะเข้ามาพูดคุยในระหว่างการจัดกิจกรรม โดยเวฟเล่าว่า ในกิจกรรมการทำโพลเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีตำรวจเข้ามาล้อมและขอให้ลบคำว่า “กษัตริย์” บนป้ายออก รวมถึงเมื่อจบกิจกรรมได้มีสมาชิกในกลุ่มถูกเจ้าหน้าที่ขับรถตามไปที่บ้าน
 
ในด้านการคุกคามอื่นๆ เวฟยังเล่าว่าเขาและเพื่อนๆ เคยถูก “ล่าแม่มด” ด้วยการแคปหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวไปส่งต่อในกรุ๊ปไลน์ของกลุ่มอนุรักษ์นิยม สืบเนื่องจากการทำกิจกรรมคาร์ม็อบและกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ส่งผลให้เขาและเพื่อนๆ ต้องพบเจอกับข้อความลดทอนคุณค่า เช่น ถูกกล่าวหาว่าโดนจ้างมา ไปจนถึงการถูกขู่ฆ่าและทำร้ายร่างกาย
 
สำหรับความคืบหน้าของเหตุการณ์สายเรียกตักเตือน ในเบื้องต้นเวฟระบุว่าได้แจ้งเรื่องการถูกคุกคามทางโทรศัพท์ไปยังเพื่อน ทนาย และผู้ใหญ่ในกลุ่มให้รับทราบแล้ว โดยยังมีสภาพจิตใจปกติและยืนยันแนวทางที่จะไม่ลบข้อความ พร้อมทิ้งท้ายไปยังเพื่อนๆ ในขบวนว่า “ไม่ต้องกลัวที่จะออกมาเคลื่อนไหว มันเป็นสิทธิของเราตามรัฐธรรมนูญ”
ชนิดบทความ: