ฐานข้อมูลคดี

8 มีนาคม 2560

กลุ่มรักษ์ห้วยโทงจัดกิจกรรมเดินบอกบุญเชิญชวนชาวบ้านร่วมกิจกรรมสืบชะตาห้วยโทงในวันที่ื 12 มีนาคม 2560

 

24 มีนาคม 2560

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ในเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ สภ.คำตากล้า นำหมายเรียกครั้งที่หนึ่งและสองซึ่งออกโดยสภ.วานรนิวาสไปส่งที่บ้านของศตานนท์ในอำเภอคำตากล้าซึ่งเป็นที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ หมายเรียกครั้งที่หนึ่งลงวันที่ 9 มีนาคม 2560 กำหนดให้ศตานนท์ไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 17 มีนาคม 2560 เวลา 09.30 น. ส่วนหมายเรียกครั้งที่สองลงวันที่ 20 มีนาคม 2560 ให้ศตานนท์ไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 24 มีนาคม 2560 เวลา 09.30 น.

 

ในหมายเรียกปรากฎชื่อร.ต.อ.พิชัย ศิริกุล รองสารวัตรปราบปรามสภ.วานรนิวาส เป็นผู้กล่าวโทษให้ดำเนินคดี โดยระบุว่าศตานนท์เป็นผู้จัดการชุมนุมคัดค้านการสำรวจแร่โปแตช ในวันที่ 8 มีนาคม 2560 แต่ไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากศตานนท์อยู่นอกพื้นที่และยังไม่พร้อมเข้ารายงานตัวตามวันนัด จึงขอให้ทนายโทรไปขอเลื่อนการเข้ารายงานตัวเป็นวันที่ 27 มีนาคม 2560 เวลา 9.00 น.

 

27 มีนาคม 2560

เดอะอีสานเรคคอร์ดรายงานว่า ศตานนท์เข้าพบพนักงานสอบสวนตามนัดโดยมีชาวบ้านกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสมาให้กำลังใจที่สภ.วานรนิวาสด้วย โดยศตานนท์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทนายของศตานนท์เปิดเผยว่าวันนี้มีการนำพยานมาให้การกับพนักงานสอบสวนสองปากเพื่อยืนยันว่าศตานนท์ไม่ใช่แกนนำผู้จัดการชุมนุม ทนายของศตานนท์เปิดเผยภายหลังด้วยว่า เชื่อว่าการตั้งข้อกล่าวหาครั้งนี้เป็นเพราะบทบาทของศตานนท์ในการคัดค้านโครงการสำรวจเหมืองโปแตช

 

หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการรับทราบข้อกล่าวหา ชาวบ้านกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสอ่านแถลงการณ์ซึ่งพอสรุปความได้ว่า ในวันเกิดเหตุชาวบ้านเพียงแต่จัดพิธีเดินบอกบุญซึ่งเป็นงานประเพณีไม่ใช่การชุมนุมสาธารณะ แต่เจ้าหน้าที่กลับดำเนินคดีกับสมาชิกกลุ่มด้วยข้อหาไม่แจ้งการชุมนุม จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติการคุกคามต่อเสรีภาพในการแสดงออกเพราะเป็นสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชน

 

ขณะที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า พนักงานสอบสวนนัดศตานนท์อีกครั้งในวันที่ 21 เมษายน 2560 เพื่อส่งตัวให้อัยการ ทั้งนี้ศตานนท์ระบุว่า ในชั้นสอบสวนเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวสตานนท์โดยยังไม่ต้องวางเงินประกัน

 

21 เมษายน 2560

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศตานนท์เข้าพบพนักงานสอบสวนที่สภ.วานรนิวาสอีกครั้งตามโดยพนักงานสอบสวนแจ้งศตานนท์ในนัดก่อนว่าวันนี้จะพาไปส่งตัวกับอัยการ อย่างไรก็ตามเมื่อศตานนท์เข้าพบพนักงานสอบสวนก็ได้รับแจ้งว่าเขาจะถูกแจ้งข้อกล่าวหากีดขวางทางจราจรตามพ.ร.บ.จราจรทางบกฯเพิ่มเติม

 

ศตานนท์เห็นว่า การแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวเพิ่มเติมเป็นเหมือนการกลั่นแกล้ง จึงปฏิเสธที่จะลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มอบบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวให้กับเขา สำหรับนัดหมายครั้งต่อไปเจ้าหน้าที่นัดศตานนท์เข้าพบในวันที่ 24 เมษายน 2560 เพื่อส่งตัวให้อัยการ

 

24 เมษายน 2560

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศตานนท์เข้าพบอัยการจังหวัดสว่างแดนดินเพื่อฟังคำสั่งคดี แต่อัยการแจ้งศตานนท์ว่าจะให้เลื่อนการฟังคำสั่งคดีออกไปก่อน เพราะก่อนหน้านี้ศตานนท์ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามา อัยการจังหวัดสว่างแดนดินจึงส่งสำนวนคดีหนังสือขอความเป็นธรรมของศตานนท์ไปให้อัยการภาคสี่เป็นผู้พิจารณาสั่งคดี อัยการแจ้งศตานนท์ด้วยว่าสำนักงานอัยการภาคสี่จะนัดศตานนท์ฟังคำสั่งคดีในวันที่ 27 มิถุนายน 2560

เอกสารคดีดูที่นี่

 

26 มิถุนายน 2560

หนึ่งวันก่อนถึงนัดฟังคำสั่งอัยการ ศตานนท์โทรศัพท์ถึงสำนักงานอัยการจังหวัดสว่างแดนดินและได้รับแจ้งว่าอัยการจังหวัดสว่างแดนดินให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งอัยการออกไปอีกหนึ่งเดือนเป็นวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 และแจ้งศตานนท์ว่าให้โทรศัพท์มาที่สำนักงานล่วงหน้าวันนัดประมาณสองถึงสามวันเพื่อยืนยันนัด