- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
ฐานข้อมูลคดี

ชื่อคดี
ผู้ต้องหา
ประเวศ
สถานะคดี
คำอธิบายสถานะคดี ภาษาไทย
ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด
สถานะผู้ต้องหา
ครบกำหนดโทษ
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ , มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา, มาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา
เนื้อหาคดีโดยย่อ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อกล่าวหา
กระทบต่อความมั่นคง, หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท, สร้างความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่อง ก่อความไม่สงบ
-
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ
การดำเนินคดี
-
ประเภทสื่อ
โซเชียลเน็ตเวิร์ค
-
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
-
ศาล
ศาลอาญา
-
หมายเลขคดีดำ
เลขคดีดำคือเลขที่ศาลออกเมื่อประทับรับฟ้องคดี
ชั้นศาล: ศาลชั้นต้น No: อ.2368/2560 วันที่: 2017-07-21
29 เมษายน 2560
ศาลถามประเวศว่าประสงค์จะตรวจพยานของโจทก์หรือระบุพยานของฝ่ายจำเลยหรือไม่ ประเวศตอบว่าไม่ประสงค์จะมีส่วนร่วมใดๆ ในกระบวนการดังที่ได้แถลงต่อศาลไปแล้ว ด้านอัยการแถลงว่าประสงค์จะสืบพยานรวม 11 ปาก ศาลจึงสั่งให้คู่ความไปหานัดวันสืบพยานแล้วแจ้งต่อศาล
ในคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว ศาลเขียนคำสั่งดังกล่าวว่า "พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วกรณีเป็นการกระทำที่ร้ายแรง....จึงให้ยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว" ซึ่งถ้อยคำในคำสั่งเป็นถ้อยคำลักษณะเดียวกับคำพิพากษาว่า "พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นการกระทำที่ร้ายแรง...." ซึ่งแสดงให้เห็นว่าศาลได้ตัดสินไปแล้วว่าตนเองได้กระทำการตามที่ถูกกล่าวหา และการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตั้งแต่ก่อนที่จะมีการฟ้องคดี และก่อนการสืบพยานหรือดำเนินการใดๆเพื่อพิสูจน์ความผิด ด้วยเหตุนี้ตนจึงไม่อาจยอมรับหรือเข้าร่วมกระบวนการใดๆ ของศาลได้
หลังเสร็จกระบวนพิจารณา อัยการแจ้งว่าคดีนี้จะมีการสืบพยานระหว่างวันที่ 8 - 11 พฤษภาคม 2561
8 พฤษภาคม 2561
นัดสืบพยานโจทก์
ตั้งแต่เวลาประมาณ 9.00 น. พี่สาวและน้องชายของประเวศ ทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้แทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวประชาไททยอยเดินทางมาที่ห้องพิจารณาคดี 707 ศาลอาญาเพื่อสังเกตการณ์สืบพยานโจทก์ในวันแรก
ในเวลาประมาณ 9.45 น. ศาลเริ่มกระบวนพิจารณา ประเวศลุกขึ้นแถลงว่าเขาไม่ยอมรับกระบวนพิจารณาคดีนี้และมีการโต้ตอบกับศาลอยู่ครู่หนึ่งโดยศาลพยายามยืนยันกับประเวศว่าจะดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างเป็นธรรมแต่ประเวศแถลงคัดค้านโดยระบุตอนหนึ่งว่าการที่เขาไม่ได้รับการประกันตัวก็คล้ายกับถูกพิพากษาไปแล้ว
หลังประเวศแถลงโต้ตอบกับศาลครู่หนึ่งศาลก็เริ่มกระบวนพิจารณา อัยการแถลงต่อศาลขอให้พิจารณาคดีเป็นการลับ ศาลเห็นพ้องกับคำขอของอัยการ จึงสั่งพิจารณาคดีลับและเชิญผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนออกจากห้องพิจารณาคดีรวมทั้งทนายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนซึ่งประเวศเคยแต่งตั้งไว้ในชั้นที่ถูกนำตัวมาฝากขังแต่ต่อมาประเวศแถลงขอถอนทนายคนดังกล่าวในนัดสอบคำให้การเนื่องจากไม่ต้องการมีส่วนร่วมใดๆในกระบวนพิจารณา
ในวันนี้มีการสืบพยานรวมสองปากคือพล.ต วิจารณ์ จดแตง นายทหารพระธรรมนูญ ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีประเวศส่วนอีกปากหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำการตรวจสอบหลักฐาน หลังสืบพยานสองปากนี้เสร็จในเวลาประมาณ 10.50 น. อัยการแถลงหมดพยานในวันนี้ ศาลจึงสั่งให้ไปสืบพยานต่อในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 โดยในช่วงที่ศาลอ่านกระบวนพิจารณา ศาลอนุญาตให้ผู้ที่มาสังเกตการณ์ก่อนเริ่มพิจารณาคดีกลับมานั่งฟังการอ่านรายงานและพูดคุยกับประเวศได้
9 พฤษภาคม 2561
นัดสืบพยานโจทก์
ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ต่อเป็นวันที่สองโดยยังคงพิจารณาคดีเป็นการลับ ก่อนเริ่มการพิจารณามีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศมาถ่ายวิดีโอประเวศขณะถูกนำตัวจากบันไดศาลมาที่ห้องพิจารณา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงมีการเสริมกำลังและมาขอให้ผู้สื่อข่าวลบภาพออกจากกล้องแต่ไม่ได้มีการตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลแต่อย่างใด
ในวันนี้อัยการนำพยานเข้าสืบรวมเจ็ดปาก เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสี่ปากและประชาชนทั่วไปอีกสามคนที่อัยการนำมาเป็นพยานในฐานะ "วิญญูชน" ที่จะให้ความเห็นต่อข้อความ หลังเสร็จสิ้นการสืบพยานทั้งหมดอัยการแถลงหมดพยาน เนื่องจากประเวศไม่ประสงค์จะสืบพยานจำเลยการสืบพยานจึงยุติลง ศษลจึงสั่งให้ยกเลิกนัดสืบพยานในวันที่ 10 และ 11 พฤษภาคมซึ่งนัดไว้ก่อนหน้านี้และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 เวลา 9.00 น.
23 พฤษภาคม 2561
นัดฟังคำพิพากษา
ญาติๆและเพื่อนของประเวศรวมทั้งผู้สังเกตการณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชนได้แก่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและมูลนิธิผสานวัฒนธรรมประมาณ 20 คนทยอยมาถึงห้องพิจารณาคดี 707 ตั้งตั้งแต่ก่อนเวลา 9.00 น.เพื่อร่วมฟังคำพิพากษา
เวลาประมาณ 9.15 น. ประเวศถูกนำตัวขึ้นมาที่ห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ศาลคนหนี่งแจ้งกับญาติของประเวศและผู้สังเกตการณ์ว่าศาลเคยสั่งพิจารณาคดีลับแล้วขอให้ออกไปรอนอกห้อง ผู้มาสังเกตการณ์คนหนึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าหากศาลขึ้นบัลลังก์และสั่งพิจารณาคดีลับก็จะปฏิบัติตาม ผู็สังเกตการณ์ทั้งหมดยังนั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดีต่อไป
เวลาประมาณ 9.30 น. ศาลขึ้นบัลลังก์โดยไม่สั่งพิจารณาคดีลับ แต่แจ้งกับประเวศว่ายังทำคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ จะต้องเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาออกไปก่อน โดยนัดวันใหม่ในวันที่ 27 มิถุนายน 2561
ทั้งนี้ระหว่างที่กระบวนพิจารณาคดีดำเนินไปศาลเรียกผู้ร่วมสังเกตการณ์คนหนึ่งซึ่งกำลังจดโน้ตและถามว่าเป็นใครจดอะไร เมื่อบุคคลดังกล่าวตอบศาลว่าเป็นผู้สื่อข่าวศาลก็กล่าวตำหนิว่าในการพิจารณาคดีของประเวศนัดแรกมีการรายงานข่าวแบบละเอียดคำต่อคำโดยระบุว่าจะมีการดำเนินการกับกรณีที่มีรายงานกระบวนพิจารณาโดยละเอียดในครั้งก่อนต่อไปและกล่าวว่าการรายงานข่าวทำได้แต่ต้องทำโดยสรุปไม่ใช่นำทุกถ้อยคำไปรายงาน อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวที่ถูกศาลซักถามพยายามชี้แจงว่าในนัดแรกที่มีปัญหาตัวเขาไม่ได้มารับฟังการพิจารณาคดีนี้ โดยตัวประเวศซึ่งเป็นจำเลยก็ลุกขึ้นชี้แจงกับศาลว่าเขาไม่เห็นผู้สื่อข่าวคนนี้ในการพิจารณาคดีนัดแรกที่มีปัญหา
27 มิถุนายน 2561
นัดฟังคำพิพากษา
ญาติๆและเพื่อนๆของประเวศประมาณ 20 คนรวมตัวกันที่ห้องพิจารณาคดี 707 ตั้งแต่ก่อนเวลา 9.00 น. ระหว่างนั้นในห้องพิจารณามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลคนหนึ่งมานั่งอยู่ด้วยและได้แจ้งให้ผู้มารอฟังการพิจารณาทุกคนปิดมือ หลังจากนั้นประเวศถูกนำตัวขึ้นมาที่ห้องพิจารณาคดีในเวลาประมาณ 9.30 น. เมื่อทนายประเวศเข้ามาในห้องพิจารณาคดีเพื่อนของเขาคนหนึ่งนำดอกไม้มามอบให้
ศาลขึ้นบัลลังก์ในเวลาประมาณ 9.35 น. และเริ่มกระบวนการอ่านคำพิพากษาโดยก่อนการอ่านคำพิพากษาศาลได้ขอให้ผู้ที่มาฟังการพิจารณาคดีนี้ทั้งหมดยืนขึ้นด้วย
ศาลอ่านบรรยายฟ้องในส่วนที่เป็นข้อความบนสถานะเฟซบุ๊กของประเวศที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 รวมสามข้อความ และบรรยายด้วยว่าจำเลยไม่ยอมรับกระบวนพิจารณาคดีนี้
หลังจากนั้นศาลอ่านคำพิพากษาในส่วนของโทษว่า ประเวศมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 สามกรรมพิพากษาจำคุกกรรมละห้าเดือนรวม 15 เดือน และพิพากษาว่าประเวศมีความผิดฐานไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือตามประกาศคปค.ฉบับที่ 25/2549 พิพากษาจำคุกหนึ่งเดือน รวมพิพากษาจำคุก 16 เดือน ทั้งนี้ระหว่างการอ่านคำพิพากษาไม่ปรากฎว่าศาลพูดถึงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ประเวศถูกฟ้องต่อศาลในคดีเดียวกันรวมสิบกรรม
หลังฟังคำพิพากษา ญาติของประเวศแสดงความพอใจกับผลความตัดสินเนื่องจากประเวศถูกคุมขังระหว่างการพิจารณามาเป็นเวลาประมาณ 14 เดือนแล้ว เมื่อศาลพิพากษาจำคุกเขาเป็นเวลา 16 เดือนก็เท่ากับว่าประเวศจะต้องรับโทษต่ออีกประมาณสองเดือนก็จะครบกำหนดโทษได้รับการปล่อยตัว ส่วนตัวของประเวศยังคงยืนยันหลังการพิพากษาว่าเขาไม่ยอมรับการพิจารณาคดีที่เกิดขึ้นและไม่ยอมรับการควบคุมตัวที่ปราศจากความชอบธรรม
26 สิงหาคม 2561
สรุปคำพิพากษาศาลชั้นต้น
พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยพิมพ์ข้อความบนเฟซบุ๊กของจำเลย ตั้งค่าการโพสต์เป็นสาธารณะโดยข้อความสรุปได้ว่า อยากรวมใจคนทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดงมาโค่นล้มเผด็จการ ต้องการเมืองใหม่ รวมทั้งมีข้อความทำนองเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันเปลี่ยนรูปแบบการปกครองของประเทศ
ระหว่างการสอบสวนจำเลยไม่ยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งของพนักงานสอบสวน
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯฉบับที่ 25 เป็นการกระทำหลายกรรมให้เรียงกระทงลงโทษ
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จำคุกกระทงละห้าเดือนรวมสามกระทง ความผิดฐานไม่พิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งคระปฏิรูปการปกครองฯจำคุกหนึ่งเดือน ข้อหาอื่นให้ยก