- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
ฐานข้อมูลคดี

ชื่อคดี
ผู้ต้องหา
วิชาญ
สถานะคดี
คำอธิบายสถานะคดี ภาษาไทย
ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด
สถานะผู้ต้องหา
ได้รับการประกันตัว
ข้อหา / คำสั่ง
พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา 61
เนื้อหาคดีโดยย่อ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อมูลจากเฟซบุ๊กของสมาน ศรีงาม ระบุว่า วิชาญเป็นรองประธานคณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยในกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา ตามอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ. 1941, เป็นรองประธานสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ, รองประธานพรรคการนำใหม่ประชาชนปฏิวัติสันติ (พรรคตามธรรมชาติ), รองประธานขบวนการศาสนาเพื่อมนุษย์ชาติ และขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 วิชาญเคยเข้าร่วมกิจกรรมทวงคืนดินแดนเขาพระวิหารและเคยปีนรั้วเข้าไปบริเวณทางขึ้นเขาพระวิหารซึ่งทหารกัมพูชาตรึงกำลังอยู่ด้วย รวมทั้งเคยประกาศอดข้าวประท้วงเพื่อให้รัฐบาลลาออกเพราะเพราะปล่อยให้ฝ่ายกัมพูชายึดครองเขาพระวิหาร
ข้อกล่าวหา
ก่อความวุ่นวายในการออกเสียงประชามติ
-
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ
การดำเนินคดี
-
ประเภทสื่อ
การพูด / ปราศรัย
-
จังหวัด
อุบลราชธานี
-
ศาล
ศาลจังหวัดอุบลราชธานี
-
หมายเลขคดีดำ
เลขคดีดำคือเลขที่ศาลออกเมื่อประทับรับฟ้องคดี
ชั้นศาล: ศาลจังหวัดอุบลราชธานี No: อ.2419/2559
วิชาญถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวจากที่เกิดเหตุไปที่สภ.พิบูลมังสาหารโดยเจ้าหน้าที่ยึดของกลางเป็นเอกสารเกี่ยวกับพรรคการเมืองของวิชาญไปด้วย
วิชาญ ถูกจับกุมตัวจากตลาดพิบูลมังสาหารไปควบคุมและสอบสวนที่สภ.พิบูลมังสาหาร ในการสอบสวนเจ้าหน้าที่เห็นว่าวิชาญ พูดจาคล้ายกับคนจิตบกพร่อง จึงส่งตัวไปตรวจที่ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ผลการตรวจของแพทย์พบว่า วิชาญ มีอาการปกติดี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ตามพ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา 61 วรรคสอง กับวิชาญและควบคุมตัวเขาไว้ที่สถานีหนึ่งคืน
ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ช่วงก่อนเกิดเหตุ ทำหน้าที่อำนวยการจราจรบริเวณหน้าตลาดสดพิบูลมังสาหาร จนกระทั่งเวลาประมาณ 7.30 น. พบเห็นวิชาญเดินทางมาด้วยจักรยาน นำมาจอดไว้ที่ร้าน เตี้ย ขายไข่ แล้วเริ่มพูดว่า ร่างรัฐธรรมนูญไม่ดี จะให้ไปได้อย่างไร
นอกจากนี้ยังยึดเอกสารบางส่วนไว้ ก่อนจะส่งตัววิชาญไปที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์เพื่อตรวจอาการทางจิต เพราะเห็นว่าวิชาญมีลักษณะคล้ายคนวิกลจริต ก่อนแพทย์จะลงความเห็นว่า วิชาญมีอารมณ์แปรปรวน ต้องรักษาอาการต่อเนื่อง
วิชาญเคยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในพรรคความหวังใหม่ สมัยที่ชิงชัย มงคลธรรม เป็นหัวหน้าพรรค
สรุปคำพิพากษาศาลชั้นต้น
7 พฤศจิกายน 2560 ศาลจังหวัดอุบลราชธานี พิพากษาให้ จำคุก 6 เดือน ปรับ 30,000 บาท แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษจำคุกเหลือ 4 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี พร้อมตัดสิทธิเลือกตั้ง 2 ปี
คำพิพากษามีเนื้อหาโดยสรุปว่า พยานโจทก์มีน้ำหนักมากกว่าพยานจำเลย พยานโจทก์ให้การตรงกันว่า จำเลยพูดในตลาดสดว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญวิปริต บิดเบือน และจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งชักชวนคนไม่ให้ไปลงประชามติ แม้ว่าจำเลยจะอ้างว่า ยืนพูดคุยกับพ่อค้าในตลาดสด เรื่องรัฐธรรมนูญ และพูดถึงแนวทางของพรรคฯ ว่า จะไม่เข้าร่วมกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ได้ชวนให้ไม่ไปลงประชามติ แต่ขณะที่จำเลยพูด มีคนเดินผ่านไปมาได้ยิน จึงเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มาตรา 61 วรรค 2
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามคำฟ้อง ให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 30,000 บาท จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 4 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 2 ปี ทั้งนี้ เนื่องจากวิชาญเคยถูกจำคุกระหว่างสอบสวน ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม – 8 กันยายน 2559 รวม 45 วัน ก่อนได้ประกันตัว แต่สุดท้ายศาลไม่ได้พิพากษาลงโทษจำคุก คิดเป็นเงินชดเชยที่เขาจะได้รับวันละ 500 บาท รวม 22,500 บาท ซึ่งเกินกว่าค่าปรับแล้ว วิชาญจึงไม่ต้องเสียค่าปรับอีก