ฐานข้อมูลคดี

28 มกราคม 2557

 

ยุทธศักดิ์รับผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งขึ้นรถที่บริเวณซอยสุขุมวิท 55 ขณะนำผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายบริเวณซอยอารีย์มีการสนทนาเรื่องการเมือง

 

ผู้โดยสารคนดังกล่าวเห็นว่ายุทธศักดิ์ พูดสิ่งที่เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ออกมา จึงใช้โทรศัพท์มือถืออัดบทสนทนาเอาไว้

 

29 มกราคม 2557

 

ผู้โดยสารคนดังกล่าวเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดียุทธศักดิ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยนำไฟล์บันทึกเสียงที่อัดไว้ในโทรศัพท์มือถือไปเป็นหลักฐานประกอบการร้องทุกข์กล่าวโทษด้วย

 

2 มิถุนายน 2557

 

เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุมยุทธศักดิ์ ใกล้ๆกับอู่เช่ารถแท็กซี่ ย่านห้วยขวาง และควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท

 

3 มิถุนายน 2557

 

ยุทธศักดิ์ประสานให้ญาติมาเยี่ยมที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไทและประสานให้เพื่อนนำยาอินซูลินมาให้ เพราะเพื่อฉีดบรรเทาอาการเบาหวาน 

 

เบื้องต้นร้อยเวรที่เป็นผู้ควบคุมผู้ต้องหาแจ้งว่า จะไม่อนุญาตให้ยุทธศักดิ์ ฉีดยาเอง เว้นแต่จะมีแพทย์มีฉีดให้ อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีของยุทธศักดิ์ ก็อนุญาตให้เขาฉีดยาเองได้ ร้อยเวรจึงให้ยุทธศักดิ์ออกมาฉีดยานอกห้องควบคุมตัวชั่วคราว

 

ในวันนี้มีคนขับแท็กซี่คนหนึ่งซื้อขนมและน้ำมาให้ยุทธศักดิ์ด้วย ร้อยเวรอนุญาตให้นำขนมและน้ำที่เป็นขวดพลาสติกเข้าไปในห้องควบคุมตัวชั่วคราวได้แต่ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องเข้าไป 

 

4 มิถุนายน 2557

 

ครบกำหนดควบคุมตัวผู้ต้องหา 48 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวยุทธศักดิ์ ไปยังศาลอาญารัชดาเพื่อขออำนาจฝากขัง

 

ยุทธศักดิ์ไปถึงศาลประมาณ 13.30 น. และได้ประสานให้ญาติมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ญาติของเขา เดินทางมาถึงศาลประมาณ 15.30 น. และได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้เงินสดมูลค่า  200,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน 

 

เวลาประมาณ 16.30 น. ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้เป็นคดีร้ายแรง เพราะกระทบกระเทือนจิตใจคนทั่วไปทั้งมีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี ทั้งผู้ร้อง(พนักงานสอบสวน) ก็คัดค้านการประกันตัวไว้ในคำร้องขอฝากขัง จึงให้ยกคำร้อง

 

เนื่องจากศาลยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ยุทธศักดิ์ จึงถูกส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ระหว่างการสอบสวน

 

8 สิงหาคม 2557

 

นัดสอบคำให้การ

 

เวลาประมาณ 11.00 น. ยุทธศักดิ์เดินทางไปที่ศาลอาญาตามนัดสอบคำให้การโดยไม่มีทนายอยู่ร่วมกระบวนการ เขาให้การรับสารภาพ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ศาลพิพากษาว่ายุทธศักดิ์มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน

 

20 พฤษภาคม 2559

 

ยุทธศักดิ์ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ