1618 1108 1470 1106 1522 1237 1969 1961 1917 1681 1779 1768 1229 1148 1818 1202 1265 1751 1634 1633 1462 1338 1364 1113 1230 1884 1355 1914 1895 1302 1180 1147 1815 1181 1755 1604 1684 1648 1240 1329 1556 1479 1863 1497 1454 1470 1303 1080 1516 1567 1076 1488 1111 1810 1898 1823 1351 1365 1695 1973 1661 1784 1060 1083 1127 1848 1820 1966 1472 1284 1914 1824 1409 1479 1050 1252 1894 1677 1900 1530 1409 1230 1713 1160 1971 1554 1551 1149 1566 1063 1079 1329 1351 1928 1765 1278 1837 1403 1705 ทบทวนผู้ต้องหา - จำเลยคดีมาตรา 112 ถูกคุมขังกันนานเท่าไหร่แล้ว และใครอยู่ที่ไหนบ้าง | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

ทบทวนผู้ต้องหา - จำเลยคดีมาตรา 112 ถูกคุมขังกันนานเท่าไหร่แล้ว และใครอยู่ที่ไหนบ้าง

 

 

9 กุมภาพันธ์ 2564 อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องจำเลยคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จำนวน 4 คน ได้แก่ ทนายอานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิ้น, สมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตนักเคลื่อนไหวด้านแรงงาน และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบ๊งค์ ในวันนั้นศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวจำเลยทั้งสี่คน พวกเขาจึงถูกคุมขังเรื่อยมา โดยทั้งสี่คนนับเป็นคนกลุ่มแรกที่ถูกคุมขังด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แม้ก่อนหน้านี้ในปี 2563 ทั้งสี่คนจะเคยถูกคุมขังมาระยะหนึ่งแล้วแต่ก็เป็นการคุมขังด้วยข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ไม่ใช่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 
 
การคุมขังจำเลยทั้งสี่คนถือเป็นการส่งสัญญาณว่าสิทธิการประกันตัวของจำเลยคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยังคงอยู่ในสภาวะน่ากังวลแมัว่าก่อนหน้านี้ทางการไทยจะพยายามแสดงให้ประชาชนและนานาอารยะประเทศเห็นว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้รับการคุ้มครองสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม โดยตำรวจมักใช้วิธีออกหมายเรียกผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 แทนการขอศาลออกหมายเลยและหากผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวก็มักได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางเงินประกันในวันเดียวกัน ต่างจากคดีในยุค คสช. หรือยุคก่อนการรัฐประหาร 2557 ที่ผู้ต้องหามักถูกนำตัวไปฝากขังและไม่ได้รับการประกันตัว
 
การคุมขังจำเลยทั้งสี่คนยังอาจถือเป็นจุดเปลี่ยนของสถานการณ์คดีมาตรา 112 เพราะมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายเรียกหรือถูกจับหลังจากนั้นบางส่วนที่ถูกนำตัวไปคุมขังในทันที ทำให้สถานการณ์สิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมของผู้ต้องหาและจำเลยคดีมาตรา 112 ดูจะมีความน่าเป็นห่วงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่พรหมศร วีระธรรมจารี ผู้ต้องหาคดีปราศรัยที่หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาตัวจากเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเดินทางไปเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกแต่กลับถูกเอาตัวไปฝากขังทันทีและศาลอ้างเหตุที่ไม่ให้ประกันตัวประการหนึ่งว่าเกรงผู้ต้องหาหลบหนียากแก่การติดตามตัวมาพิจารณาคดี   
 
ตารางผู้ต้องขังคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 
 

วันที่ถูกฝากขัง/
คุมขัง

ผู้ต้องหา/จำเลย

คดี

สถานะคดี

สถานที่ควบคุมตัว

9 กุมภาพันธ์ 2564

อานนท์ นำภา

คดีการชุมนุม19 กันยา
ทวงอำนาจคืนราษฎร

ศาลชั้นต้น

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

9 กุมภาพันธ์ 2564

พริษฐ์​ ชิวารักษ์ (เพนกวิน)

คดีการชุมนุม19 กันยา
ทวงอำนาจคืนราษฎร
ศาลชั้นต้น

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

9 กุมภาพันธ์ 2564

สมยศ พฤกษาเกษมสุข

คดีการชุมนุม19 กันยา
ทวงอำนาจคืนราษฎร
ศาลชั้นต้น

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

9 กุมภาพันธ์ 2564

ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม
(หมอลำแบ๊งค์)

คดีการชุมนุม19 กันยา
ทวงอำนาจคืนราษฎร
ศาลชั้นต้น

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

23 กุมภาพันธ์ 2564

อนุชา

ชูป้ายระหว่างการชุมนุม

ชั้นสอบสวน

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

4 มีนาคม 2564

ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์
(แอมมี)

วางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์
รัชกาลที่ 10

ชั้นสอบสวน

เรือนจำพิเศษธนบุรี

6 มีนาคม 2564

ปริญญา ชีวินกุลปฐม
(พอร์ท วงไฟเย็น)

ถูกกล่าวหาว่า โพสต์ข้อความ
เชื่อมโยงการรัฐประหารในตุรกี
3 ข้อความ

ชั้นสอบสวน

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

8 มีนาคม 2564

จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่)

คดีการชุมนุม19กันยา
ทวงอำนาจคืนราษฎร

ศาลชั้นต้น เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

8 มีนาคม 2564

ภาณุพงศ์ จาดนอก (ไมค์)

คดีการชุมนุม19 กันยา
ทวงอำนาจคืนราษฎร

ศาลชั้นต้น เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

8 มีนาคม 2564

ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (รุ้ง)

คดีการชุมนุม19 กันยา
ทวงอำนาจคืนราษฎร

ศาลชั้นต้น

ทัณฑสถานหญิงกลาง

11 มีนาคม 2564

พรชัย

โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์
เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
การสืบทอดอำนาจ 

ชั้นสอบสวน

เรือนจำกลางเชียงใหม่

17 มีนาคม 2564

พรหมศร วีระธรรมจารี (ฟ้า)

ปราศรัยหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี

ชั้นสอบสวน

เรือนจำอำเภอธัญบุรี

 
1705
 
 
การฝากขังชั้นสอบสวน
 
การฝากขังในชั้นสอบสวนหมายถึงช่วงเวลาตั้งแต่เมื่อพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังระหว่างการสอบสวนคดีจนถึงเมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดี ในชั้นนี้พนักงานสอบสวนจะต้องขออำนาจศาลฝากขังเป็นผัดๆ ผัดละไม่เกิน 12 วัน (หากต้องการขังต่อต้องยื่นคำร้องใหม่) และขออำนาจศาลฝากขังได้ไม่เกิน 7 ผัดหรือ 84 วัน หากจนถึงช่วงเวลาดังกล่าวอัยการยังไม่สั่งฟ้องคดีผู้ต้องหาจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำทันทีจนกว่าอัยการจะเรียกตัวมาเพื่อฟังคำสั่งคดี ในชั้นนี้ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะคัดค้านคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนว่าไม่มีเหตุให้ควบคุมตัวคือ 



1.ผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งไม่หลบหนี

2.ผู้ต้องหาจะไม่ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อาทิ ไปข่มขู่พยานหรือทำลายหลักฐาน และ
3.ผู้ต้องหาจะไม่ไปก่อพยันตรายประการอื่น


ซึ่งหากสุดท้ายศาลเห็นควรให้ฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้องของตำรวจ (พนักงานสอบสวน) ผู้ต้องหาก็ยังมีสิทธิขอประกันตัวโดยวางหลักทรัพย์ตามที่ศาลกำหนดหรือสาบานตนแทนการวางหลักทรัพย์ก็ได้ หากศาลไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาก็จะถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำ
 
 
การคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี
 
เมื่ออัยการฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ศาลจะออกหมายขังจำเลยซึ่งในชั้นนี้ จำเลยจะไม่มีสิทธิคัดค้านการคุมขัง โดยจะมีเพียงสิทธิยื่นคำร้องประกันตัว ซึ่งหากไม่ได้รับการประกันตัว จำเลยจะถูกขังไปเรื่อยๆ จนกว่า

1. จำเลยได้รับการประกันตัว
2. ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง (บางกรณีแม้ศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย ศาลก็อาจขังจำเลยระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาได้)
 
โดยตามหลักการ การฝากขังหรือคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีจะต้องเป็นไปเพื่อให้การดำเนินการทางคดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเท่านั้น ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการลงโทษจำเลยก่อนศาลมีคำพิพากษาเป็นที่สุด