1748 1423 1398 1045 1560 1386 1145 1428 1102 1973 1156 1628 1666 1474 1341 1507 1392 1843 1638 1144 1886 1489 1412 1765 1321 1966 1110 1039 1550 1907 1672 1980 1343 1855 1711 1178 1530 1628 1584 1456 1129 1383 1015 1016 1937 1457 1336 1673 1259 1661 1527 1566 1505 1999 1586 1996 1877 1955 1801 1459 1895 1345 1352 1911 1545 1581 1409 1128 1340 1004 1582 1642 1377 1350 1568 1916 1726 1693 1279 1690 1174 1896 1417 1498 1151 1685 1501 1190 1923 1056 1351 1953 1233 1154 1248 1336 1114 1004 1256 สถิติคดี 112 ที่น่าสนใจ ตั้งแต่ปี 2557- 2560 | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

สถิติคดี 112 ที่น่าสนใจ ตั้งแต่ปี 2557- 2560

คดี 112 หรือคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ยังเป็นคดีที่คงเส้นคงวาในความลี้ลับ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการประกันตัวผู้ต้องหาที่ยังคงเป็นสิทธิที่เข้าถึงยาก หรือจำนวนโทษที่ในปี 2560 เคยมีจำเลยถูกศาลพิพากษาจำคุกสูงถึงเจ็ดสิบปี จากปี 2557 ที่มีการยึดอำนาจและเร่งรัดดำเนินคดี 112 จนถึงสิ้นปี 2560 มีผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีไปแล้วอย่างน้อย 94 ราย ในจำนวนนี้บางส่วนตัดสินใจรับสารภาพตั้งแต่ชั้นสอบสวนเพื่อให้คดีสิ้นสุดโดยเร็ว บางส่วนตั้งใจพิสูจน์ความบริสุทธิของตัวเองในช่วงต้นแต่เมื่อต้องเผชิญกับเงื่อนไขเช่นการไม่ได้ประกันตัวและการถูกพิจารณาคดีแบบปิดลับซึ่งเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจรับสารภาพ 
 
ก่อนจะติดตามสถานการณ์ต่อในปี 2561 ไอลอว์ชวนย้อนดูสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับคดีมาตรา 112 และความเปลี่ยนแปลงในการดำเนินคดีนี้ในรอบสามปีหกเดือนที่ผ่านมา
 
1) หลังรัฐประหารมีคนที่ถูกดำเนินคดี 112 อย่างน้อย 94 ราย
 
ข้อมูลตั้งแต่หลังรัฐประหารจนถึงสิ้นปี 2560 พบว่ามีจำเลยคดี 112 อย่างน้อย 43 คนที่ถูกศาลพิพากษาแล้ว ในจำนวนนี้ 39 คนให้การรับสารภาพ 2 คนสู้คดีแล้วศาลพิพากษายกฟ้อง อีก 2 คนสู้คดีแต่ศาลพิพากษาว่ามีความผิด จำเลยอีก 36 คนคดียังอยู่ในชั้นศาล มีอีก 10 คนที่คดียังไม่มีความเคลื่อนไหวหรืออัยการสั่งไม่ฟ้องและมีอีก 5 รายที่ไม่มีข้อมูลว่าคดีอยู่ชั้นใดหรือสถานะปัจจุบันของพวกเขาเป็นอย่างไร 
 
2) มีแค่ 16 เปอร์เซ็นของผู้ต้องหาคดี 112 ที่ได้รับการประกันตัว
 
ข้อมูลตั้งแต่หลังรัฐประหารจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2560 พบว่า ในบรรดาผู้ต้องหาหรือจำเลย 94 คน มีเพียง 15 คนเท่านั้นที่ได้ประกันตัวหรือคิดเป็นเพียง 16 เปอร์เซ็นเท่านั้น ส่วนที่เหลือบางรายไม่มีหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวแต่บางรายก็พยายามยื่นประกันแล้ว บางคนยื่นมากกว่าหนึ่งครั้งแต่ศาลไม่อนุญาต โดยเหตุผลที่ศาลไม่ให้ประกันตัวจะมีลักษณะเหมือนกันคือ คดี 112 คดีที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาหรือจำเลยอาจจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว 
 
แต่ก็มีบางกรณีที่ศาลให้เหตุผลที่แตกต่างออกไป เช่นกรณี จตุภัทร์ หรือ ไผ่ ดาวดิน ที่ตอนแรกได้รับการประกันตัว แต่เมื่อ จตุภัทร์ แสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ว่า "เศรษฐกิจมันแย่แม่งเอาแต่เงินประกัน" พนักงานสอบสวนสภ.ขอนแก่นจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลถอนประกันจตุภัทร์ซึ่งศาลก็อนุญาตตามคำร้องของพนักงานสอบสวนและนับจากนั้นจตุภัทร์ก็ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ประกันตัวอีกเลยจนกระทั่งศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกเขาเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือนในวันที่ 15 สิงหาคม 2560
 
ศาลให้เหตุผลในการถอนประกันจตุภัทร์ว่า จตุภัทร์ยังไม่ลบข้อความที่เป็นประเด็นแห่งคดีออกจากเฟซบุ๊ก ทั้งยังแสดงความคิดเห็น และมีพฤติกรรมบนสื่อสังคมออนไลน์ในเชิงเยาะเย้ย อำนาจรัฐ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และจตุภัทร์ก็มีแนวโน้มจะกระทำการลักษณะเดิมต่อไปอีก จึงให้ถอนการประกันตัว
 
3) วงเงินประกันตัวขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุด 500,000 บาท 
 
สำหรับวงเงินประกันตัวคดีมาตรา 112 จากการสำรวจตั้งแต่หลังการรัฐประหาร 2557 จนถึงสิ้นปี 2560 พบว่า วงเงินขั้นต่ำที่ใช้ในการยื่นขอประกันตัวอยู่ที่ 100,000 บาท โดยมีผู้ต้องหาหรือจำเลยเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้รับการประกันตัวภายใต้วงเงินนี้ และวงเงินประกันสูงสุดเท่าที่ศาลเคยให้ประกันอยู่ที่ 500,000 บาท
 
อย่างไรก็ตาม เคยมีกรณีของโอภาส จำเลยสูงวัยจากคดีเขียนฝาผนังห้องน้ำ ที่มีปัญหาสุขภาพรุมเร้าทั้งความดันและโรคตา ที่เคยวางโฉนดที่ดินมูลค่า 2.5 ล้านบาทพร้อมหลักฐานทางการแพทย์ประกอบการประกันตัวต่อศาลทหารกรุงเทพถึง 4 ครั้งแต่ศาลก็ไม่ให้ประกันตัว
 
4) 92 เปอร์เซ็นของคดี 112 ที่ศาลพิพากษา มาจากจำเลยรับสารภาพ 
 
จากข้อมูลตั้งแต่หลังรัฐประหารจนถึงสิ้นปี 2560 พบว่า จำเลยทั้ง 43 คนที่ถูกศาลพิพากษาแล้ว มีจำเลย 39 คน ซึ่งคิดเป็น 92 เปอร์เซ็น ที่ตัดสินใจรับสารภาพ เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ทำให้ได้รับโอกาสปล่อยตัวได้เร็วกว่า เพราะมีการลดโทษทันทีครึ่งหนึ่ง รวมถึงระหว่างการคุมขังยังอาจได้รับการลดหย่อนโทษ หรืออภัยโทษในวาระสำคัญๆ ทำให้จำเลยที่ไม่ได้รับอีกทั้งการไม่ได้ประกันตัวและถูกพิจารณาคดีโดยศาลทหารซึ่งมีระบบการพิจารณาคดีที่ล่าช้า มองว่าการรับสารภาพเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
 
ที่ผ่านมามีจำเลยส่วนหนึ่งที่เบื้องต้นให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดีแต่มาตัดสินใจรับสารภาพในภายหลัง เช่น วิชัย ซึ่งถูกฟ้องว่า ปลอมเฟซบุ๊กของคนอื่น และโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ รวม 10 ครั้ง เดิมวิชัยต่อสู้ว่า เฟซบุ๊กนั้นไม่ใช่ของเขา และเขาไม่ได้ทำความผิดตามฟ้อง วิชัยถูกควบคุมตัวมาประมาณหนึ่งปีสองเดือนศาลทหารจึงนัดสืบพยานเป็นครั้งแรกแต่ก็ต้องเลื่อนเป็นวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 เพราะพยานติดราชการและในวันนัดใหม่พยานก็ไม่มาอีกครั้งเพราะไม่ได้รับหมายศาล วิชัยจึงแถลงต่อศาลว่า ขอกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ
 
5) 70 ปีคือโทษจำคุกสูงสุดเท่าที่ศาลเคยวางสำหรับคดี 112
 
ข้อมูลตั้งแต่หลังรัฐประหารจนถึงสิ้นปี 2560 พบว่า คดีของ วิชัย เป็นคดีที่ทำสถิติใหม่ วิชัย ถูกกล่าวหาว่าทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวม 10 กรรม ศาลทหารกรุงเทพสั่งลงโทษจำคุกกรรมละ 7 ปี รวมเป็น 70 ปี แต่ทว่า วิชัยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกกรรมละ 3 ปี 6 เดือน รวมเป็น 30 ปี 60 เดือน 
 
ก่อนหน้านี้ในปี 2558 ศาลทหารกรุงเทพเคยพิพากษาจำคุกพงศักดิ์ จำเลยที่ถูกกล่าวหาว่าโพสต์ภาพและข้อความที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายนี้รวม 6 ครั้งเป็นเวลา 60 ปี โดยวางโทษต่อการกระทำหนึ่งกรรมเป็นเวลา 10 ปี แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุก 30 ปี