1816 1197 1861 1602 1702 1612 1522 1992 1466 1264 1245 1724 1326 1258 1695 1968 1812 1287 1073 1502 1130 1074 1173 1477 1885 1727 1459 1710 1869 1965 1886 1074 1097 1369 1251 1947 1985 1034 1087 1798 1253 1100 1977 1498 1778 1408 1395 1360 1845 1663 1601 1478 1630 1744 1023 1689 1066 1990 1600 1888 1949 1041 1778 1836 1131 1719 1108 1318 1709 1456 1603 1009 1934 1712 1485 1911 1895 1778 1353 1295 1112 1217 1210 1960 1596 1651 1559 1868 1660 1025 1178 1579 1888 1746 1971 1727 1055 1304 1479 “สมรภูมิดินแดง” เมื่อเด็กมาทวงคืนชีวิตด้วยการเผชิญหน้า | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

“สมรภูมิดินแดง” เมื่อเด็กมาทวงคืนชีวิตด้วยการเผชิญหน้า

 
20 สิงหาคม 2564 นับเป็นวันที่ 11 แล้วที่แยกดินแดงกลายเป็นพื้นที่สมรภูมิที่ผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาลกับตำรวจชุดควบคุมฝูงชนปะทะกันด้วยอาวุธและความรุนแรง  ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ กลุ่มผู้ชุมนุมอิสระเหล่านี้มีอายุน้อยลงและสามารถรวมตัวกันเองเพื่อปฏิบัติการกันเอง ไม่จำเป็นต้องรวมตัวหรือเดินขบวนตามการประกาศจากกลุ่มที่ใช้แนวทางการชุมนุมแบบอื่น 
 
1900
 
การชุมนุมตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2564 ที่ประกาศนัดหมายโดย Free Youth หรือกลุ่มเยาวชนปลดแอก สังเกตได้ว่า ผู้ชุมนุมในวันนั้นส่วนใหญ่อยู่ในวัยประมาณ 20 ปี และยิ่งมีการชุมนุมที่แนวปะทะต่อเนื่องหลายวันก็พบเห็นเยาวชนอายุน้อยเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า วันที่ 20 สิงหาคม 2564 มีผู้ถูกจับกุม 23 คนเป็นเยาวชน 16 คน
 
ภายใต้สถานการณ์โควิด 19 "เด็ก" เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทั้งเรื่องการศึกษา ที่ไม่สามารถไปโรงเรียน ไปเจอเพื่อน หรือเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนรู้ได้ตามปกติ และด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อยและผู้ปกครองต้องตกงานไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 
 
แม้รูปแบบของการเคลื่อนไหวที่แยกดินแดง ผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้เครื่องเสียง ไม่ได้ใช้ป้ายผ้า จึงไม่มีการสื่อสารถึง "ข้อเรียกร้อง" อย่างเป็นรูปธรรม แต่เมื่อได้ “ฟัง” พวกเขาบางคนก็พบว่า “สมรภูมิดินแดง” กลายเป็นพื้นที่ให้พวกเขาได้ระบายออกซึ่งความอัดอั้นจาผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในวัยที่ควรจะมีโอกาสได้เรียนรู้และเติบโต และความรู้สึกสำคัญที่มีร่วมกัน คือ พวกเขาไม่วางใจในตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาอีกต่อไป
 
1901
 

๐ เจ็บก็ยอม อยากได้รัฐบาลใหม่

 
การชุมนุมเริ่มต้นในเวลาประมาณ 16.30 น. ผู้ชุมนุมมีการขว้างปาสิ่งของที่หน้าแนวคอนเทนเนอร์ บริเวณทางลงทางด่วนดินแดง ฝั่งราบ 1 และใต้ทางด่วน เวลา 16.53 น. มีการยิงแก๊สน้ำตาจากบนทางด่วนลงมากลางแยกดินแดง แต่เป็นการยิงระลอกสั้นๆ ไม่ต่อเนื่อง มีผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไปได้รับผลกระทบ ต่างหยุดล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าบริเวณฟุตบาทหน้าแฟลตดินแดง
 
ผู้สังเกตการณ์ยืนอยู่บริเวณถนนมิตรไมตรี พบเยาวชนกลุ่มหนึ่งวิ่งจากแยกดินแดง เข้าไปที่ถนนมิตรไมตรีเพื่อล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เยาวชนกลุ่มนี้มีประมาณ 4 คนอายุ 17 ปีทั้งหมด พวกเขาช่วยกันเล่าให้เราฟัง บอกว่า บ้านอยู่ย่านสะพานใหม่ เหตุที่มาชุมนุมที่นี่เพราะว่า ใกล้บ้านและมีนัดหมายในช่วงเย็น เวลาที่มาก็พากันขับมอเตอร์ไซด์มากับเพื่อน พวกเขาไม่เคยไปร่วมชุมนุมที่อื่นมาก่อน แต่เลือกมาเข้าร่วมที่แยกดินแดง 
 
เยาวชนคนนึงบอกว่า มาครั้งแรกในวันที่ 15 สิงหาคม ส่วนอีกคนหนึ่งบอกว่า มาวันนี้วันแรก ก่อนเดินทางเพื่อนๆมีการตั้งกลุ่มแชทคุยกันและตกลงกันว่า จะมาที่แยกดินแดงวันไหน ต้องเจอกันที่ไหนและจะต้องออกจากพื้นที่เวลาใดเพื่อความปลอดภัย
 
สำหรับสาเหตุที่มาร่วมชุมนุมที่รู้อยู่ก่อนแล้วว่า อาจจะต้องเจ็บตัวหรือถูกจับกุม คนหนึ่งบอกว่า “พูดไม่ถูกอ่ะพี่ เจ็บหรือยังไงมันก็ต้องยอมอ่ะพี่” อีกคนหนึ่งบอกว่า “ชีวิตวัยรุ่นเราควรได้ใช้มากกว่านี้ ต้องการชีวิตวัยรุ่นกลับคืน” ระหว่างนั้นมีเสียงดังปังที่แยกดินแดงต่อเนื่อง เมื่อเราถามซ้ำว่า ได้รับผลกระทบจากรัฐบาลนี้ คนนึงตอบว่า “เศรษฐกิจ คนตายก็เยอะ” อีกคนนึงตอบว่า “เยอะมาก (เสียงยาว) โควิดมันยั้งไม่อยู่แล้ว” เราถามว่า ที่บ้านได้รับผลกระทบอย่างไร เสียงของเขาอ่อนลงและหลุบตามองพื้น “ได้รับผลกระทบบ้าง ตกงานบ้าง”
 
เยาวชนกลุ่มนี้เล่าด้วยว่า พวกเขาเรียนสายสามัญ แต่ได้รับผลกระทบจากการเรียนออนไลน์ “การเรียนไม่มีคุณภาพเรียนไม่เข้าใจ” ระหว่างนี้เพื่อนของเขาวิ่งไปชะโงกดูที่แยกดินแดง พวกเขาก็ไม่มีสมาธิตอบมากนัก
 
เมื่อถามว่า มีสิ่งของอะไรติดมือมาบ้าง พวกเขาชูมือเปล่าบอกว่า “หนูไม่ได้เอาอะไรมาเลย มาด้วยใจ”  เยาวชนอีกคนหนึ่งบอกว่า การมาวันนี้มีบ้างที่มาตะโกนด่า แต่ส่วนใหญ่ คือ มาเร่งเครื่องมอเตอร์ไซด์ ส่วนจุดยืนที่มีต่อรัฐบาลนี้ “คือไม่รู้จะพูดอะไรแล้วอ่ะพี่ สุดๆแล้ว ออกไปก็ดีเลย ถ้าเลือกตั้งใหม่ได้” เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่
 
หลังการพูดคุย เยาวชนกลุ่มนี้จะวิ่งกลับไปที่แยกดินแดง มีผู้ชุมนุมบริเวณนั้นสังเกตเห็นว่า พวกเขาทิ้งกุญแจรถไว้ที่รถจึงตะโกนบอกว่า ให้เอากุญแจรถไปด้วย เดี๋ยวจะหายและถูกยึด บางส่วนก็วิ่งกลับเข้ามาเอากุญแจและวิ่งไป
 
1902
 
1903
 

๐ ตั้งใจมาดินแดง ปาของเพราะตำรวจทำก่อน

 
เวลา 17.22 น. ตำรวจชุดคุมฝูงชนเดินแนวแสดงกำลังจากแยกสามเหลี่ยมดินแดงไปที่แยกดินแดง จากนั้นเวลา 17.29 น. วางกำลังปิดแยกดินแดง รถยนต์ยังคงสัญจรผ่านไปมาได้ปกติ ยังมีผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ตามซอกซอยต่างๆ รถยนต์ที่ขับผ่านมาบางคันชูสามนิ้วให้ผู้ชุมนุม
 
เวลา 18.00 น. มีกลุ่มมอเตอร์ไซด์ขับรถมาจากอุโมงด์ดินแดงมาจนถึงสะพานข้ามแยกสามเหลี่ยมดินแดง พวกเขามองหาคน จากนั้นถามเราว่า พี่รู้ไหม ม็อบอยู่ไหน? เราบอกว่า ไม่ทราบ จากนั้นกลุ่มมอเตอร์ไซค์ดังกล่าวจึงมาจอดปักหลักบริเวณสะพานข้ามแยกสามเหลี่ยมดินแดง
 
บริเวณที่ยืนอยู่สามารถมองเห็นแนวตำรวจที่แยกดินแดงใกล้กับตึก KPN กลุ่มนี้ประกอบไปด้วยเยาวชนประมาณ 10 คนรวมตัวกัน จากการพูดคุยกับเยาวชนกลุ่มนี้ จึงได้รู้ว่าส่วนใหญ่อายุ 16 ปี พวกเขามีท่าทีไม่จริงจังนักคนแรกเล่าว่า มาชุมนุมตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2564 เพื่อนคนนึงแย้งว่า ไม่ใช่ เรามาชุมนุมตั้งแต่ตุลาคม 2563 แล้ว คนที่ตอบพยักหน้าเอออ  เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
 
อย่างไรก็ดีช่วงหลังพวกเขามาชุมนุมที่แยกดินแดงบ่อยครั้ง ที่มากันเป็นกลุ่มแบบนี้ได้เพราะเช่าห้องอยู่ด้วยกันเวลาจะมาก็มาพร้อมกันเลย สาเหตุที่ต้องมาที่แยกดินแดง คือ มาทวงชีวิตวัยรุ่นคืน ตามปกติจะมาที่แยกดินแดงตั้งแต่ 14.00 น. และปักหลักเดินเล่นกินข้าวบริเวณนี้
 
พวกเขาเล่าว่า มาที่นี่กี่ครั้งก็โดนแก๊สน้ำตาทุกครั้ง เยาวชนกลุ่มนี้ยอมรับว่า มีการใช้หนังสติ๊กยิงลูกแก้วและสิ่งของอื่นๆในการเผชิญหน้ากับตำรวจ เมื่อถามว่า ทำไมทำเช่นนั้น “มันยิงกระสุนยางโดนนิ้วผมช้ำเลย ผมเลยปาของ” เขาพูดพร้อมโชว์นิ้วก้อยข้างซ้ายให้ดู แต่ร่องรอยไม่ปรากฏแล้ว
 
เราถามด้วยความอยากรู้ว่า การปาของเพื่อโต้กลับการใช้กำลังของตำรวจเป็นไปเพื่อต้องการกวนประสาทหรืออยากปาให้โดนตำรวจจริงๆ พวกเขาบอกว่า อยากให้โดนจริงๆ เพราะตำรวจทำก่อน 
 
เราถามว่า ตอนนี้เรียนโรงเรียนสามัญหรืออาชีวะ พวกเขาสบตากัน เพื่อนอีกคนบอกว่า สายสามัญ พวกเขาก็พยักหน้าตามกัน เยาวชนคนหนึ่งบอกว่า ตอนนี้ต้องเรียนออนไลน์ ชีวิตตอนนี้ไม่ได้ไปโรงเรียนไม่ได้เจอเพื่อน  อีกคนหนึ่งกล่าวว่า อยากเรียกร้องให้เปิดพื้นที่ให้นักเรียนได้กลับไปโรงเรียน แต่ไม่ได้หมายความโรงเรียนเปิดแล้ว เขาจะหยุดการร่วมชุมนุม
 
เมื่อถามว่า ถ้าฝ่าแนวคอนเทนเนอร์ไปได้จะทำอะไรต่อ พวกเขาบอกว่า ยังไม่ได้คิด ในตอนท้ายพวกเขาหัวเราะร่วนและบอกว่า "ประยุทธ์ออกไปได้แล้ว แย่"
Article type: