1121 1511 1768 1366 1581 1142 1220 1109 1587 1544 1319 1178 1253 1476 1185 1109 1294 1097 1553 1294 1339 1444 1689 1428 2000 1290 1314 1776 1379 1170 1237 1870 1900 1593 1430 1586 1324 1329 1583 1288 1729 1901 1047 1611 1930 1991 1060 1699 1828 1413 1179 1027 1029 1515 1114 1195 1381 1887 1773 1855 1279 1870 1705 1299 1860 1790 1711 1542 1174 1352 1861 1133 1644 1670 1518 1119 1369 1135 1556 1606 1147 1454 1213 1599 1053 1677 1499 1155 1830 1559 1349 1144 1666 1792 1715 1638 1793 1721 1088 เรื่องเล่าจากห้องพิจารณาคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร 29 มีนาคม 2564 | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

เรื่องเล่าจากห้องพิจารณาคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร 29 มีนาคม 2564

 

29 มีนาคม 2564 ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 704 ศาลอาญานัดตรวจหลักฐานคดีการชุมนุม #19กันยาทวงคืนอำนาจราษฎร แม้การนัดตรวจพยานหลักฐานจะเลื่อนออกไป แต่ก็ใช้เวลาในห้องพิจารณาคดีนานมาก และมีเรื่องราวชีวิตให้บันทึกและจดจำมากมาย

 

จำเลยในคดีนี้มีทั้งหมด 22 คน แบ่งเป็นจำเลยที่เบิกตัวมาจากเรือนจำ 9 คน ได้แก่ อานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, หมอลำแบงค์หรือปดิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม, ไผ่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก, แอมมี่ ไชยอมร, รุ้ง ปนัสยา, และชูเกียรติหรือจัสติน นอกจากนั้นก็มีจำเลยที่ได้รับการประกันตัวอีก 13 คน

 
 
ราชทัณฑ์คุมเข้ม! สมยศประกาศคงมีชีวิตอีกไม่นาน
 
ในห้องพิจารณามีการจัดเก้าอี้และแปะป้ายชื่อจำเลยแต่ละคนไว้ เก้าอี้ด้านหลังห้องพิจารณามีญาติของจำเลยเข้ามานั่งฟังการพิจารณา นอกจากคู่ความแล้ว คนที่จะเข้ามาในห้องพิจารณาคดีต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ศาลอย่างชัดเจนว่าเป็นญาติของใครตั้งแต่จุดคัดกรองชั่วคราวบริเวณลานจอดรถนอกอาคารศาล โดยในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ศาลได้เดินไปบอกกับญาติของจำเลยว่า อย่าเข้าไปกอด พูดคุย หรือให้กำลังใจจำเลย ขอให้นั่งฟังเฉยๆ
 
เวลาประมาณ 11.10 น. จำเลยคนอื่นๆ ได้รับการประกันตัวทยอยเดินทางมาถึงศาลครบถ้วน คนที่มาช้า คือ ไบรท์ ชินวัตร ที่ถูกจับจากหมู่บ้านทะลุฟ้าในช่วงค่ำวันที่ 28 มีนาคม 2564 ซึ่งตำรวจพาตัวมาจากสโมสรตำรวจ ส่วนครูใหญ่ อรรถพล มาถึงช้าเพราะเครื่องบินจากขอนแก่นเลื่อนเวลามาถึงล่าช้า
 
ศาลออกนั่งบัลลังก์ในเวลา 11.50 น. และเริ่มทำการขานชื่อจำเลยทีละคน ห้านาทีต่อมา จำเลยที่ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำเดินเข้ามาในห้องพิจารณาโดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ประกบสองต่อหนึ่งและคล้องแขนจำเลยไว้ตอนเดินเข้ามา แอมมี่ ไชยอมรเดินเข้ามาเป็นคนแรก พร้อมด้วยเพนกวิน พริษฐ์ ที่มาด้วยรถเข็นพร้อมเสาน้ำเกลือ โดยมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดพยาบาลเดินตามมาด้วย ตามมาด้วย ไมค์ ภาณุพงศ์ ไผ่ จตุภัทร์ สมยศ หมอลำแบงค์ ทนายอานนท์ จัสติน และรุ้งปนัสยาที่ถูกเบิกตัวมาจากทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อจำเลยทุกคนมาถึงและนั่งลงตามที่นั่งที่แปะชื่อไว้ก็มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นั่งประกบซ้ายขวาทุกคน เก้าอี้ม้านั่งหนึ่งตัวจะมีจำเลยสองคน และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สี่คน
 
เมื่อจำเลยมาครบถ้วนแล้ว นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความแถลงว่าได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปอีกนัดหนึ่ง เนื่องจากพยานหลักฐานมีจำนวนมาก และเพิ่งได้รับเอกสารในวันที่ 25 มีนาคม จึงยังไม่ได้ตรวจดู และยังไม่ได้รับพยานวัตถุ ศาลจึงได้ถามว่าอัยการจะคัดค้านหรือไม่ อัยการตอบว่าไม่คัดค้าน และตกลงกันว่าจะเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปเป็นวันที่ 8 เมษายน 2564 เวลา 9.00 น.
 
ระหว่างการพิจารณา ศาลอนุญาตให้แต่ทนายความปรึกษาคดีกับจำเลยที่คุมถูกขังเท่านั้น เมื่อณัฐชนนจะเดินไปคุยกับเพนกวินเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็เข้ามาห้าม ทนายความต้องแถลงขอให้คู่คดีได้คุยกันบ้าง ศาลอนุญาตให้แยกคุยทีละคู่ อย่างไรก็ตาม ทนายความได้ขออนุญาตศาลให้แม่ของเพนกวินได้เข้าไปพูดคุยกับลูก เนื่องจากเห็นว่ามีสภาพร่างกายที่อ่อนเพลียมาก แม่ของเพนกวินเดินเข้าไปกอดลูก โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยืนห้อมล้อมอย่างใกล้ชิด เมื่อน้องสาวของเพนกวินจะเข้าไปคุยด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็พยายามห้าม อ้างว่าศาลไม่อนุญาต ทั้งนี้จากการสังเกตพบว่าในวันนี้มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อยู่ในห้องพิจารณาคดีประมาณ 20 คน
 
 
1741
 
 
ในช่วงหนึ่งของการพิจารณา ศาลเรียกให้รุ้งปนัสยาเข้าไปคุยที่หน้าบัลลังก์ โดยสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง รุ้งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ถูกคุมขังใช่หรือไม่ ระหว่างที่ตอบคำถามศาล รุ้งร้องไห้และบอกว่า อยู่ในเรือนจำไม่มีเวลาต่อสู้คดี ไม่มีเวลาหาพยานหลักฐาน พวกเราสู้อะไรไม่ได้เลย ทนายความได้ยินว่า ศาลพูดกับรุ้งว่า จะให้โอกาสเต็มที่ในการต่อสู้คดี รุ้งจึงบอกว่า หนูขอแค่ข้อเดียวคือ ขอสิทธิประกันตัว
 
ทางด้านสมยศ ได้ลุกขึ้นแถลงต่อศาลโดยมีใจความสำคัญว่า คดีนี้คงใช้พิจารณานาน ผมคงจะสิ้นลมก่อน ดังนั้นขอให้ศาลช่วยบันทึกลงในสำนวนคดีว่า
 
๐ ข้อ 1 ผมไม่ได้รับสิทธิประกันตัวจากศาลทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการต่อสู้คดี พวกผมไม่ได้อยู่ในฐานะจะต่อสู้คดีได้ ผมคงมีชีวิตอยู่ไม่นาน เพราะสภาพเรือนจำไม่เอื้อให้มีชีวิตยืนยาว ท่านอัยการมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการหาพยานหลักฐาน แต่พวกผมมีแต่กำแพงสูงและกรงขัง
 
๐ ข้อ 2 ตอนนี้ผมติดคุกเท่ากับว่าศาลตัดสินแล้วว่าผมผิด ถ้าสุดท้ายศาลยกฟ้อง ผมก็ติดไปแล้ว หรือศาลพิพากษาลงโทษ ผมก็ติดไปแล้วเช่นกัน ผลไม่ได้ต่างกัน
 
๐ ข้อ 3 ผมไม่อยากเห็นคนต้องเจ็บตัว หรือสูญเสียในการออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวผม ซึ่งที่ผ่านมาโดนทั้งกระสุนยางและแก๊สน้ำตา หรือแม้แต่เพนกวินที่ต้องทรมานเพราะอดข้าว จึงขอร้องให้ศาลสั่งประหารชีวิต เพื่อจำหน่ายคดีของผม เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาคดีนี้และพี่น้องคนอื่นจะได้ไม่ต้องเจ็บหรือสูญเสียอีก
 
สุดท้าย สมยศย้ำว่า ผมอยู่ในสภาพที่ต่อสู้อะไรไม่ได้ ขอวิงวอนให้บันทึกไว้ หรือหากศาลไม่บันทึก ก็ขอให้ทนายจำเลยบันทึกไว้แล้วยื่นเป็นคำร้องต่อศาล
 
เวลาประมาณเวลา 12.40 น. ศาลสั่งให้พักการพิจารณาเพื่อให้จำเลยที่ถูกคุมขังได้รับประทานอาหารกลางวันและนัดพิจารณาคดีต่อในช่วงบ่ายเวลา 13.30 น.
 
 
รุ้ง ประกาศอดอาหารถ้าไม่ได้ประกัน
 
การพิจารณาคดีในช่วงบ่ายเริ่มขึ้นประมาณ 14.00 ศาลเรียกทนายจำเลยที่ 3 คือ หมอลำแบงค์ และทนายจำเลยที่ 7 คือ ไผ่ ไปคุยที่ใต้บัลลังก์ หลังจากนั้นทนายความกลับไปคุยกับจำเลยทั้งสองคน ด้านทนายของไผ่แถลงขอปรึกษาคดีเป็นการส่วนตัวกับลูกความ ขออย่าให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เฝ้าอยู่ในห้องกีดกันหรือแอบฟัง ศาลอนุญาต ทนายความสามคนจึงไปยืนคุยกับไผ่ที่มุมหนึ่งของห้อง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3-4 คนยืนล้อมดูห่างออกมา 3-4 ก้าว ส่วนทนายของหมอลำแบงค์นั่งคุยกับจำเลยที่ม้านั่งโดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นั่งฟังอยู่ติดกันทั้งสองฝั่ง
 
จากนั้นรุ้งขอแถลงต่อศาล ศาลเรียกให้ไปยืนใต้บัลลังก์ และอ่านข้อความที่เตรียมมา รุ้งอ่านคำแถลงไปร้องไห้ไป โดยคำแถลงสรุปความได้ว่า หนูเข้าเรียนคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยาโดยเชื่อในความเป็นมนุษย์ ตั้งแต่รู้จักกับเพนกวิน และเพื่อนๆ ก็ตั้งใจจะเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยความรัก ด้วยความหวังว่า จะเห็นสังคมที่ดีขึ้น แต่ตอนหลังมาเห็นว่ารัฐไม่สามารถดูแลทุกคนได้ มีคนต้องฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจ หนูโกรธมาก วันนี้ที่ร้องไห้ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ แต่เพราะเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มีคนบอกว่า เป็นเรื่องผิดมากๆ ที่หนูออกมาใช้สิทธิเสรีภาพเคลื่อนไหวให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หนูผิดอะไร หนูเพียงแค่มีความรักไม่เหมือนเพื่อนมนุษย์
 
วันนี้หนูดีใจมากที่ศาลบอกว่าจะให้โอกาสต่อสู้คดี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้โอกาสนี้ หนูกับเพื่อนอีกหลายคนไม่ได้ประกันตัว เราถูกบังคับไม่ให้มีโอกาสนั้น หนูกลัวค่ะ หนูกลัวว่าเพื่อนหนูจะเป็นอะไรไป หนูบอกเพนกวินว่า หนูกลัวมันตาย แต่เพนกวินตอบว่า ถ้าจะตายก็ให้ตายไป หนูคิดมาตลอดว่า เราสู้เพื่ออยู่ ไม่ได้สู้เพื่อตาย (ขณะพูดประโยคนี้หันมามองเพนกวิน) แต่ถ้าจะมีใครตาย ก็ขอให้ตายเพื่อคนที่ยังอยู่ และวันนี้หากไม่ได้รับสิทธิประกันตัวอีก จะขอประกาศอดอาหารด้วย โดยจะเริ่มจากการรับประทานวันละมื้อ และลดลงเหลือรับประทานแค่น้ำ นม และสารอาหาร ขอให้การตายของเราเป็นสายธารนำความหวังสู่สังคม
 
ระหว่างการอ่านถ้อยแถลง ณัฐชนนท์ชูสามนิ้วในห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่คนแรกเดินมากระซิบข้างหูแต่ณัฐชนนไม่เอามือลง เจ้าหน้าที่อีกคนจึงเดินเข้ามากระซิบและจับมือให้เอาลงวางข้างลำตัว หลังจากอ่านเสร็จศาลขอให้ส่งถ้อยแถลงนี้ที่เป็นลายมือของรุ้งเข้ามาในคดี ทนายความจึงฉีกกระดาษจากสมุดจด และยื่นให้ศาลเก็บไว้
 
บรรยากาศในห้องพิจารณาค่อนข้างวุ่นวาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พยายามจะไม่ให้ญาติ และเพื่อนที่มาฟังการพิจารณาได้พูดคุยกับจำเลยที่มาจากเรือนจำ อนุญาตเพียงให้ทนายความปรึกษาคดีเท่าน้ัน แต่เมื่อทนายความบางคนไปพูดคุยกับจำเลยในเรื่องอื่นๆ ก็จะถูกสั่งห้ามและถูกนั่งฟังอย่างใกล้ชิด ทำให้มีการโต้เถียงกันเป็นระยะๆ และต้องแถลงต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งอนุญาตให้คุยกันได้เป็นกรณีๆ ไป โดยเพื่อนๆ ของเพนกวินที่เป็นจำเลยในคดีนี้และจะขอคุยกับเพนกวิน ศาลไม่อนุญาต
 
หลังจากนั้นศาลอ่านรายงานกระบวนพิจารณาในเวลาประมาณ 15.10 ในรายงานระบุว่า การนัดตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ฝ่ายจำเลยขอเลื่อนออกไปก่อน และกำหนดวันนัดใหม่เป็นวันที่ 8 เมษายน 2564 เวลา 9.00 และให้จำเลยที่ถูกขังระหว่างการพิจารณามาศาลเพื่อดูหลักฐานที่เป็นวิดีโอจากฝั่งโจทก์ในวันที่ 7 เมษายน 2564 โดยจำเลยที่ 4 คือ สมยศ และจำเลยที่ 7 คือ ไผ่ แถลงว่าหากได้รับการประกันตัวจะไม่พูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์อีก ส่วนจำเลยที่ 3 คือ หมอลำแบงค์ แถลงว่าหากได้รับการประกันตัวจะไม่พูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่เข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง จะไปประกอบอาชีพเป็นหมอลำ ยินยอมติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ และจะมาศาลตามนัดทุกนัด หากไม่มาศาลนัดใดขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวได้
 
 
1742

 

 

Article type: