1357 1297 1103 1635 1689 1437 1000 1831 1480 1443 1126 1670 1794 1839 1461 1501 1517 1772 1941 1195 1180 1745 1073 1660 1823 1041 1995 1763 1725 1684 1654 1005 1984 1792 1184 1554 1620 1546 1875 1246 1308 1646 1000 1090 1009 1912 1960 1834 1694 1867 1613 1243 1719 1925 1995 1290 1459 1606 1344 1184 1471 1017 1012 1374 1477 1585 1661 1322 1617 1974 1417 1914 1200 1335 1216 1899 1615 1118 1769 1333 1733 1335 1746 1774 1904 1973 1011 1197 1406 1757 1051 1309 1572 1292 1920 1586 1543 1045 1579 มหากาพย์คดีเหมืองทองคำพิจิตร-สมลักษณ์ นักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อม เจ้าของห้าคดีหมิ่นประมาทฯ | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

มหากาพย์คดีเหมืองทองคำพิจิตร-สมลักษณ์ นักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อม เจ้าของห้าคดีหมิ่นประมาทฯ

 
สมลักษณ์ หุตานุวัตร เป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคม เป็นกรรมการเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นอดีตพยานผู้เชี่ยวชาญกรณีเหมืองทองพิจิตร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาข้อขัดแย้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสุขภาพ โดยสมลักษณ์มีบทบาทอย่างมากในการเคลื่อนไหวคัดค้านการดำเนินการของเหมืองแร่ทองคำ จังหวัดพิจิตร ที่ผู้รับประทานบัตรคือ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) จนนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีหมิ่นประมาทและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในปี 2559 รวมสี่คดีด้วยกัน
 
 
บริษัท อัคราฯ เจ้าของเหมืองแร่ทองคำในจังหวัดพิจิตร ฟ้องสมลักษณ์ร่วมกับธัญญารัศมิ์ ชาวบ้านจากจังหวัดพิจิตร ที่อยู่อาศัยในพื้นที่การทำเหมืองแร่และแกนนำเครือข่ายผู้ป่วยจากการทำเหมืองแร่ทองคำพิจิตรและเพชรบูรณ์ว่า กระทำความผิดตามมาตรา 14(1) และ (5) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา จากการโพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาว่า บริษัท อัคราฯ ไม่จ่ายภาษีให้แก่ประเทศไทยรวม 11 ข้อความ
 
ในปี 2560 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้อง เช่นเดียวกับตามศาลชั้นต้น โดยศาลระบุว่า จำเลยทั้งสองได้กระทำไปโดยสุจริต และเป็นการตำหนิเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองเพื่อให้รักษาประโยชน์ของชาติ อันมีความชอบธรรมที่จะกระทำได้ เพื่อป้องกันส่วนได้ส่วนเสียของประเทศชาติ อยู่ในวิสัยที่จะกระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น และศาลไม่อนุญาตให้ยื่นฎีกาต่อ คดีถึงที่สุดแล้ว
 
 
บริษัท อัคราฯ เจ้าของเหมืองแร่ทองคำในจังหวัดพิจิตร ฟ้องสมลักษณ์ร่วมกับสมิทธิ์ ตุงคะสมิต อาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิตว่า กระทำความผิดตามมาตรา 14(1) และ (5) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา จากการโพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่ผลตรวจสุขภาพของประชาชนกลุ่มตัวอย่างที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกับเหมืองแร่ทองคำ จังหวัดพิจิตร ซึ่งยังไม่ผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา ข้อขัดแย้ง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจากการทำเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งทั้งโจทก์และจำเลยทั้งสองเป็นคณะกรรมการอยู่ด้วย
 
ในปี 2561 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษายกฟ้อง ระบุว่า ข้อมูลที่สมลักษณ์โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นข้อเท็จจริงที่สมลักษณ์ได้จากรายงานทางการแพทย์และเพียงต้องการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่ได้รับมา ถือไม่ได้ว่า มีเจตนาใส่ความให้โจทก์น่าจะเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง และข้อมูลที่สมลักษณ์โพสต์ไม่ใช่ความเท็จ ดังนั้นจึงไม่ใช่ความผิดฐานนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 14(1) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อไม่ใช้ข้อมูลเท็จ การแชร์โพสต์ดังกล่าวของสมิทธิ์จึงไม่ใช่ความผิดตามมาตรา 14(5) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วยเช่นกัน คู่ความไม่อุทธรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนด คดีถึงที่สุดแล้ว
 
 
บริษัท อัคราฯ เจ้าของเหมืองแร่ทองคำในจังหวัดพิจิตร ฟ้องสมลักษณ์ว่า กระทำความผิดตามมาตรา 14(1),14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และมาตรา 101 วรรคหนึ่งและสองของของพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฯ จากการโพสข้อความพาดพิงบริษัท อัคราฯ ประกอบรูปภาพทำนองว่า “อันตรายมากที่เร่งทำอย่างกอบโกย คันเขื่อนบ่อไซยาไนด์ ขนาด 1,400 ไร่ ไม่มีแกนเขื่อนเปราะบางมาก อันตรายมาก ห่างวัด ห่างโรงเรียนแค่ 400-500 เมตร”
 
ปี 2560 ศาลจังหวัดพิจิตรพิพากษาว่า สมลักษณ์มีความผิดฐานนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ และหมิ่นประมาท ลงโทษตามกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด คือ มาตรา 14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โทษจำคุกหนึ่งปี ปรับ 80,000 บาท แต่ให้รอลงอาญาโทษจำคุกไว้เป็นเวลาสองปี โดยศาลกำหนดเงื่อนไขการคุมประพฤติ ไม่ให้สมลักษณ์โพสต์ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ที่อาจนำไปสู่การกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันภายในระยะหนึ่งปี คดีนี้อยู่ในชั้นฎีกา
 
 
บริษัท อัคราฯ เจ้าของเหมืองแร่ทองคำในจังหวัดพิจิตร ฟ้องสมลักษณ์ว่า กระทำความผิดตามมาตรา 14(1) และของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา จากการแชร์ข่าวเรื่อง การแถลงข่าวของโจทก์ที่เตรียมดำเนินการยื่นขอต่อใบอนุญาตประกอบกิจการของบริษัท อัคราฯ ประกอบข้อความว่า “ความเลวร้ายของทุนสามานย์ คือ “ความไร้สำนึกชาติ ศาสน์ กษัตริย์”
 
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ต่อมาในปี 2561 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า สมลักษณ์มีความผิด ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักสุด จำคุกสองเดือนและปรับ 20,000 บาท จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้สองปี และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อในหนังสือพิมพ์รายวันไทยรัฐเป็นเวลาสามวัน ติดต่อกันโดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณาข้อหา คดีนี้อยู่ในชั้นฎีกา
 
ล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2562 สมลักษณ์ถูกบริษัท 99 ธุวานนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ขอสัมปทานเหมืองถ่านหินในอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ฟ้องในคดีหมิ่นประมาทจากการโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับเหมืองแร่ดังกล่าวบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งนับเป็นคดีที่ห้าของเธอ โดยคดีนี้ยังอยู่ในชั้นสอบสวนของตำรวจ

 

Article type: