1279 1376 1899 1467 1858 1459 1005 1727 1217 1935 1543 1712 1092 1557 1637 1182 1439 1589 1673 1773 1523 1848 1556 1941 1475 1897 1736 1090 1435 1341 1942 1989 1082 1720 1634 1286 1724 1686 1708 1052 1502 1201 1557 1064 1940 1065 1930 1263 1632 1767 1474 1423 1185 1478 1735 1076 1478 1474 1569 1028 1944 1390 1147 1885 1635 1044 1704 1307 1576 1782 1315 1548 1135 1828 1559 1213 1950 1376 1256 1876 1912 1001 1388 1504 1094 1275 1144 1202 1844 1985 1887 1906 1801 1933 1542 1950 1730 1069 1260 ขอเพียงความจริง: แม่สยาม ธีรวุฒิ ยื่นหนังสือถึงสถานทูตเวียดนามขอให้เปิดเผยชะตากรรมของลูกชาย | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

ขอเพียงความจริง: แม่สยาม ธีรวุฒิ ยื่นหนังสือถึงสถานทูตเวียดนามขอให้เปิดเผยชะตากรรมของลูกชาย


13 พฤษภาคม 2562 จากกรณีที่มีข่าวว่า ชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ “ลุงสนามหลวง” , สยาม ธีรวุฒิ หรือ “สหายข้าวเหนียวมะม่วง” และกฤษณะ ทัพไทย หรือ “สหายยังบลัด” ผู้ลี้ภัยการเมืองในลาว ซึ่งถูกจับกุมที่เวียดนามเมื่อเดือนมกราคม 2562 ถูกส่งตัวกลับไทยแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าใด ทำให้ในวันนี้พ่อและแม่ของสยาม ธีรวุฒิ หนึ่งในสามผู้ลี้ภัยการเมืองพร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเดินทางไปที่สถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทยเพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเวียดนามผ่านทางสถานทูต ขอให้เปิดเผยถึงชะตากรรมของลูกชาย
 
 
1099
 
แม่ของสยามแถลงข่าวก่อนเข้ายื่นหนังสือต่อสถานทูตเวียดนาม 13 พฤษภาคม 2562
 
ตั้งแต่ก่อนเวลา 13.00 น. มีกลุ่มนักกิจกรรมเดินทางมารอทำกิจกรรมอยู่ก่อนแล้ว โดยทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนซึ่งช่วยประสานงานให้ทางครอบครัวเข้าพบกับสถานทูตแจ้งกับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวว่าทางครอบครัวของสยามจะเดินทางมาถึงล่าช้าเนื่องจากในช่วงเช้าได้ไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไปและมีการจราจรติดขัด
 

ในเวลาประมาณ 13.20 น. พ่อและแม่ของสยามเดินทางมาถึงที่สถานทูต แม่ของสยามแถลงต่อสื่อมวลชนว่า ทางครอบครัวได้รับข่าวจากเพื่อนของสยามว่า สยามถูกทางการเวียดนามจับกุมตัวเพราะใช้หนังสือเดินทางปลอมของประเทศอินโดนีเซียเข้าประเทศ และได้ถูกส่งตัวกลับประเทศไทยในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 เธอและทนายความได้ไปที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อติดตามความคืบหน้าแต่ปรากฎว่าสยามไม่อยู่ที่นั่น และเมื่อจะขอแจ้งความเรื่องลูกชายหายตัวทางตำรวจก็ยังไม่รับแจ้งเนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสยามเข้าประเทศแล้ว
 
1100
 
นักกิจกรรมวางแผ่นป้ายทวงถามชะตากรรมของสยามที่หน้าสถานทูตเวียดนาม 13 พฤษภาคม 2562
 

แม่ของสยามระบุว่าลูกชายออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่ประมาณปี 2557 ซึ่งเขาก็ติดต่อกลับมาที่บ้านเป็นครั้งคราวแต่ก็เป็นเพียงการส่งข้อความสั้นๆบอกว่า ปลอดภัยดี สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้แม่ของสยามระบุว่า “สิ่งที่เธอเป็นห่วงที่สุดคือชีวิตของลูกชาย อยากจะขอพบตัวลูกแบบเป็นๆ ตอนนี้เธอเครียดมากเพราะไม่รู้ความจริงว่าลูกอยู่ที่ไหน ถูกส่งตัวกลับมาหรือยัง...จะติดตามได้ที่ไหน”
 

หลังการแถลงข่าวแม่ของสยามก็เข้าไปยื่นหนังสือในสถานทูต ซึ่งหนังสือดังกล่าวสรุปได้ว่า
 
ตามที่มีข่าวว่านักกิจกรรมไทยสามคนรวมทั้งสยามที่พยายามหลบหนีการดำเนินคดีของทางการไทย ถูกจับกุมที่เวียดนามเพราะเข้าเมืองผิดกฎหมายและปลอมแปลงหนังสือเดินทาง และมีข่าวว่าทั้งสามอาจจะถูกส่งตัวกลับประเทศไทยในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 เธอในฐานะมารดาของสยาม ขอให้ทางสถานทูตในฐานะตัวแทนรัฐบาลในประเทศไทยช่วยตรวจสอบว่า
 

1. สยามถูกจับกุมตัวด้วยข้อหาข้างต้นจริงหรือไม่ เมื่อวันที่เท่าไหร่ อย่างไร
2. หากสยามยังอยู่ในความควบคุมของทางการเวียดนามขอให้เปิดเผยว่าถูกคุมขังไว้ที่ไหนและจะติดต่อได้อย่างใด และ 3. หากสยามไม่อยู่ในความควบคุมของทางการเวียดนามแล้วมีการส่งกลับประเทศไทยแล้วหรือไม่เมื่อไหร่ อย่างไร  
 

โดยทางสถานทูตได้รับเรื่องไว้และแจ้งว่า หากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ประเทศเวียดนามมีการแจ้งความคืบหน้ามาก็จะประสานมายังครอบครัวของสยามต่อไป
 
 
ระหว่างที่แม่ของสยามเข้าไปยื่นหนังสือเพื่อนๆของสยามและกลุ่มนักกิจกรรมมีการนำแผ่นป้ายเขียนข้อความ Where are you? (Justice in) Siam ที่มีภาพของสยามส่วนหนึ่งมาวางบนพื้นหน้าประตูสถานทูตและอีกส่วนหนึ่งมาถือระหว่างร้องเพลง "ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ" โดยหนึ่งในนักกิจกรรมกล่าวว่า “เพลงนี้ถูกใช้ร้องเมื่อไผ่ดาวดินถูกปล่อยตัวในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562วันนี้จึงอยากจะร้องเพลงนี้ให้สยาม หวังว่าสยามจะได้กลับมาหาครอบครัวและเพื่อนๆอย่างปลอดภัยอีกครั้ง”
 
ระหว่างที่กลุ่มนักกิจกรรมกำลังร้องเพลงอยู่นั้น แม่ของสยามที่เสร็จจากการพูดคุยกับทางสถานทูตก็ออกมายืนร่วมร้องเพลงด้วย หลังจากเพลงจบทางกลุ่มก็ยุติการทำกิจกรรม ส่วนแม่ของสยามมีกำหนดเข้าพบคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยต่อไป
 

 

Article type: