1924 1270 1174 1875 1819 1520 1015 1145 1133 1609 1415 1767 1902 1666 1465 1953 1906 1999 1043 1660 1906 1121 1427 1234 1214 1963 1232 1045 1371 1020 1026 1224 1195 1012 1095 1100 1852 1924 1487 1840 1001 1330 1531 1367 1086 1738 1361 1045 1185 1795 1730 1282 1116 1860 1363 1304 1501 1598 1009 1935 1353 1209 1635 1269 1312 1099 1959 1623 1588 1678 1181 1316 1616 1715 1879 1721 1322 1945 1183 1776 1278 1538 1258 1312 1642 1798 1972 1506 1027 1211 1872 1137 1861 1149 1297 1540 1801 1813 1238 ขอเพียงความจริง: แม่สยาม ธีรวุฒิ ยื่นหนังสือถึงสถานทูตเวียดนามขอให้เปิดเผยชะตากรรมของลูกชาย | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

ขอเพียงความจริง: แม่สยาม ธีรวุฒิ ยื่นหนังสือถึงสถานทูตเวียดนามขอให้เปิดเผยชะตากรรมของลูกชาย


13 พฤษภาคม 2562 จากกรณีที่มีข่าวว่า ชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ “ลุงสนามหลวง” , สยาม ธีรวุฒิ หรือ “สหายข้าวเหนียวมะม่วง” และกฤษณะ ทัพไทย หรือ “สหายยังบลัด” ผู้ลี้ภัยการเมืองในลาว ซึ่งถูกจับกุมที่เวียดนามเมื่อเดือนมกราคม 2562 ถูกส่งตัวกลับไทยแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าใด ทำให้ในวันนี้พ่อและแม่ของสยาม ธีรวุฒิ หนึ่งในสามผู้ลี้ภัยการเมืองพร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเดินทางไปที่สถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทยเพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเวียดนามผ่านทางสถานทูต ขอให้เปิดเผยถึงชะตากรรมของลูกชาย
 
 
1099
 
แม่ของสยามแถลงข่าวก่อนเข้ายื่นหนังสือต่อสถานทูตเวียดนาม 13 พฤษภาคม 2562
 
ตั้งแต่ก่อนเวลา 13.00 น. มีกลุ่มนักกิจกรรมเดินทางมารอทำกิจกรรมอยู่ก่อนแล้ว โดยทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนซึ่งช่วยประสานงานให้ทางครอบครัวเข้าพบกับสถานทูตแจ้งกับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวว่าทางครอบครัวของสยามจะเดินทางมาถึงล่าช้าเนื่องจากในช่วงเช้าได้ไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไปและมีการจราจรติดขัด
 

ในเวลาประมาณ 13.20 น. พ่อและแม่ของสยามเดินทางมาถึงที่สถานทูต แม่ของสยามแถลงต่อสื่อมวลชนว่า ทางครอบครัวได้รับข่าวจากเพื่อนของสยามว่า สยามถูกทางการเวียดนามจับกุมตัวเพราะใช้หนังสือเดินทางปลอมของประเทศอินโดนีเซียเข้าประเทศ และได้ถูกส่งตัวกลับประเทศไทยในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 เธอและทนายความได้ไปที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อติดตามความคืบหน้าแต่ปรากฎว่าสยามไม่อยู่ที่นั่น และเมื่อจะขอแจ้งความเรื่องลูกชายหายตัวทางตำรวจก็ยังไม่รับแจ้งเนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสยามเข้าประเทศแล้ว
 
1100
 
นักกิจกรรมวางแผ่นป้ายทวงถามชะตากรรมของสยามที่หน้าสถานทูตเวียดนาม 13 พฤษภาคม 2562
 

แม่ของสยามระบุว่าลูกชายออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่ประมาณปี 2557 ซึ่งเขาก็ติดต่อกลับมาที่บ้านเป็นครั้งคราวแต่ก็เป็นเพียงการส่งข้อความสั้นๆบอกว่า ปลอดภัยดี สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้แม่ของสยามระบุว่า “สิ่งที่เธอเป็นห่วงที่สุดคือชีวิตของลูกชาย อยากจะขอพบตัวลูกแบบเป็นๆ ตอนนี้เธอเครียดมากเพราะไม่รู้ความจริงว่าลูกอยู่ที่ไหน ถูกส่งตัวกลับมาหรือยัง...จะติดตามได้ที่ไหน”
 

หลังการแถลงข่าวแม่ของสยามก็เข้าไปยื่นหนังสือในสถานทูต ซึ่งหนังสือดังกล่าวสรุปได้ว่า
 
ตามที่มีข่าวว่านักกิจกรรมไทยสามคนรวมทั้งสยามที่พยายามหลบหนีการดำเนินคดีของทางการไทย ถูกจับกุมที่เวียดนามเพราะเข้าเมืองผิดกฎหมายและปลอมแปลงหนังสือเดินทาง และมีข่าวว่าทั้งสามอาจจะถูกส่งตัวกลับประเทศไทยในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 เธอในฐานะมารดาของสยาม ขอให้ทางสถานทูตในฐานะตัวแทนรัฐบาลในประเทศไทยช่วยตรวจสอบว่า
 

1. สยามถูกจับกุมตัวด้วยข้อหาข้างต้นจริงหรือไม่ เมื่อวันที่เท่าไหร่ อย่างไร
2. หากสยามยังอยู่ในความควบคุมของทางการเวียดนามขอให้เปิดเผยว่าถูกคุมขังไว้ที่ไหนและจะติดต่อได้อย่างใด และ 3. หากสยามไม่อยู่ในความควบคุมของทางการเวียดนามแล้วมีการส่งกลับประเทศไทยแล้วหรือไม่เมื่อไหร่ อย่างไร  
 

โดยทางสถานทูตได้รับเรื่องไว้และแจ้งว่า หากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ประเทศเวียดนามมีการแจ้งความคืบหน้ามาก็จะประสานมายังครอบครัวของสยามต่อไป
 
 
ระหว่างที่แม่ของสยามเข้าไปยื่นหนังสือเพื่อนๆของสยามและกลุ่มนักกิจกรรมมีการนำแผ่นป้ายเขียนข้อความ Where are you? (Justice in) Siam ที่มีภาพของสยามส่วนหนึ่งมาวางบนพื้นหน้าประตูสถานทูตและอีกส่วนหนึ่งมาถือระหว่างร้องเพลง "ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ" โดยหนึ่งในนักกิจกรรมกล่าวว่า “เพลงนี้ถูกใช้ร้องเมื่อไผ่ดาวดินถูกปล่อยตัวในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562วันนี้จึงอยากจะร้องเพลงนี้ให้สยาม หวังว่าสยามจะได้กลับมาหาครอบครัวและเพื่อนๆอย่างปลอดภัยอีกครั้ง”
 
ระหว่างที่กลุ่มนักกิจกรรมกำลังร้องเพลงอยู่นั้น แม่ของสยามที่เสร็จจากการพูดคุยกับทางสถานทูตก็ออกมายืนร่วมร้องเพลงด้วย หลังจากเพลงจบทางกลุ่มก็ยุติการทำกิจกรรม ส่วนแม่ของสยามมีกำหนดเข้าพบคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยต่อไป
 

 

Article type: