1729 1222 1497 1993 1732 1010 1234 1838 1909 1984 1750 1933 1117 1674 1596 1166 1312 1820 1901 1966 1921 1075 1786 1558 1989 1195 1963 1283 1219 1715 1235 1138 1270 1358 1770 1803 1299 1845 1793 1779 1945 1520 1103 1986 1760 1136 1582 1544 1233 1022 1225 1693 1705 1610 1941 1278 1363 1791 1601 1788 1477 1357 1200 1911 1803 1437 1759 1553 1668 1961 1551 1493 1036 1379 1060 1999 1092 1598 1257 1726 1442 1088 1293 1665 1804 1569 1864 1267 1346 1537 1814 1945 1892 1198 1050 1209 1087 1694 1939 ศาลอุทธรณ์พิพากษา ‘มีชัย’ ผิดมาตรา 112 เหตุตั้งคำถามการใช้งบประมาณของสถาบันกษัตริย์ | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

ศาลอุทธรณ์พิพากษา ‘มีชัย’ ผิดมาตรา 112 เหตุตั้งคำถามการใช้งบประมาณของสถาบันกษัตริย์

2897

 

วันที่ 27 กันยายน 2566 เวลา 9.40 น. ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา ‘มีชัย’ ผิดมาตรา 112 โดยเห็นพ้องกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เนื่องจากหลักฐานและคำอธิบายของจำเลยฟังไม่ขึ้น อย่างไรก็ตาม ศาลได้อนุญาตให้สามารถขอใช้สิทธิในการประกันตัวได้ และนายประกันกำลังทำเรื่องขอประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นฎีกาต่อไป
 
ศาลเริ่มด้วยการอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จากนั้นจึงพิพากษายืน เห็นพ้องกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยระบุว่า แม้จำเลยจะไม่ได้กล่าวถึงพระมหากษัตริย์พระองค์ใดเป็นการเฉพาะเจาะจงในคำว่า “ระบอบกษัตริย์” แต่หากพิจารณาด้วยความคิดแบบ “วิญญูชน” แล้วจะทำให้เข้าใจว่าจำเลยหมายถึงรัชกาลที่ 10 ด้วย ดังที่โจทก์ได้เห็นข้อความของจำเลยบนสื่อออนไลน์ จึงเกิดการร้องทุกข์กล่าวโทษขึ้นตามมา
 
สำหรับสิ่งที่จำเลยกล่าวว่าเป็นการตั้งคำถามบนฐานหลักการนั้น ศาลอุทธรณ์ระบุว่าจำเลยยกหลักฐานมาจากเว็บไซต์ที่ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือ ศาลจึงลงความเห็นว่าไม่มีน้ำหนักที่เพียงพอ
 
ขณะเดียวกันศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ว่าจำเลยจะขึ้นต้นประโยคด้วยคำว่า “ความเห็นส่วนตัว” แต่การจะออกความเห็นต่อบุคคลใดได้นั้นก็ต้องมีการพิจารณาบุคคลนั้นๆ เสียก่อน ซึ่งทำให้สังคมจะเข้าใจผิดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ทำธุรกิจผูกขาด ทั้งที่ในโลกปัจจุบันธุรกิจที่ได้รับการยอมรับคือระบบตลาดเสรี จึงเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ดังที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาเอาไว้แต่แรก
 
‘มีชัย’ วัย 51 ปี มีอาชีพเป็นพ่อค้าอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ถูกแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษ ณ สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ โดย ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล ประชาชนที่พักอยู่ใน จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 เนื่องจากศิวพันธุ์กล่าวหาว่า ‘มีชัย’ โพสต์ข้อความตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้เงินภาษีของพระมหากษัตริย์ ที่อาจจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวนสองข้อความ
 
ข้อความดังกล่าว คือ “ความเห็นส่วนตัว สถาบันกษัตริย์ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษี ปชช. เพราะกษัตริย์มีธุรกิจผูกขาดอยู่มากมาย” และ “ปชช.มอบเงินให้ระบอบกษัตริย์ 2-3 หมื่นล้านต่อปี กษัตริย์มอบอะไรให้กับ ปชช.” 
 
ต่อมา ‘มีชัย’ ถูกศาลสั่งให้ฝากขังระหว่างการพิจารณาคดี และต้องใช้เงินประกันตัวจากกองทุนราษฎรประสงค์ถึง 150,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัวออกมา แม้ว่า ‘มีชัย’ จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม
 
ต่อมาในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 อัยการสั่งฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิพากษาว่า ‘มีชัย’ มีความผิดตามคำฟ้องทั้งสองกรรม ให้ลงโทษบทหนักสุดตามมาตรา 112 จำคุกสี่ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกสองปีแปดเดือน เนื่องจากศาลระบุว่า ทั้งสองข้อความเป็นการกล่าวหาว่าพระมหากษัตริย์กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการผูกขาดการค้า การกล่าวหาเท็จว่าพระมหากษัตริย์นำงบประมาณไปใช้ส่วนพระองค์ และการใช้คำว่า “ระบอบกษัตริย์” ย่อมหมายความรวมตั้งแต่รัชกาลที่หนึ่งไปจนถึงรัชกาลที่ 10 อันเป็นการทำให้เสื่อมพระเกียรติ
 
ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป โดยใช้หลักทรัพย์ประกันเดิมจำนวน 150,000 บาท และเพิ่มหลักทรัพย์อีก 75,000 บาท รวมทั้งหมด 225,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ จึงได้รับการประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม
 
วันนี้ (27 กันยายน 2566) ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืน เห็นพ้องกับศาลชั้นต้น แต่ยังอนุญาตให้มีการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นฎีกา และขณะนี้นายประกันกำลังทำเรื่องขอประกันตัวอยู่ ซึ่งยังเป็นเรื่องที่สังคมควรให้ความสนใจต่อไป
 
คดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีที่มีการแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษข้ามจังหวัด จนทำให้เกิดความลำบากในการต่อสู้คดี รวมทั้งยังมีการตีความกฎหมายที่กว้างขวางจนง่ายต่อการเอาผิด และมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นประชาชน “คนหน้าเดิม” ที่มักคอยร้องทุกข์กล่าวโทษประชาชนด้วยมาตรา 112 เป็นประจำ
 
Article type: