- iLaw Website
- Documentation Center
ได้หมาย YOUNG EP.4 คุยกับสี่นักกิจกรรมแดนใต้ “กระบี่ไม่ทน-กลุ่มนิสิตเพื่อประชาธิปไตย-ภูเก็ตปลดแอก และเฟมินิสต์ปลดแอก ภาคใต้”
เมื่อพูดถึง “ภาคใต้” หลายคนอาจนึกถึงลมเย็นๆ ริมหาด การไปดำน้ำดูปะการังสวยๆ หรือแกงไตปลาอร่อยๆ แต่เมื่อขยายอาณาบริเวณเข้
นอกจากต้องพบเจอการคุ
6 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13.00 น. รายการ “ได้หมาย Young” ร่วมพูดคุยกั
ก้าวแรกของการเคลื่อนไหวบนท้องถนน
o บูม เล่าว่าพื้นเพนิสัยของตนเองเป็
o ขณะที่ ฮัสซานเล่าว่า ตัวเขาเองมักได้รับหน้าที่เป็
o ด้านของภัทรา เล่าว่าเป็นคนที่ชอบประวัติ
o จริงใจเล่าว่า พ่อและแม่ของเธอค่อนข้างหัวสมั
เรื่องเล่าในวันได้รับหมาย
o บูมเล่าว่า ได้รับหนึ่งหมายเรียกในข้อหาฝ่
“วันนั้นบูมเป็นผู้จัดและเป็นผู้
“ครั้งแรกหมายไม่ได้มาที่บ้าน ผมต้องไปทวงถามที่ สภ.เมือง (สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต) สภ.เมืองก็บอกว่าส่งหมายไปที่ป้
“พอนัดรายงานตัว ตำรวจก็บอกว่าเลื่อนไปนะ จะมีหมายครั้งที่สองมาให้ที่บ้
ขณะที่ฮัสซานเล่าว่า เขาได้รับหนึ่งหมายเรียกฐานฝ่
“พอมาอ่านหมายดีๆ ชื่อผมตรงจำเลยที่ 1 เขียนผิด-นามสกุลผิด ส่วนชื่อตรงกลางที่แจ้งข้อกล่
“จากนั้นมีหมายมาที่พ่ออีกใบหนึ่
“ทั้งหมายพยานและหมายรายงานตัว พอไปถึง ตำรวจไม่ว่าง แจ้งเลื่อน เพื่อนผมบางคนอยู่เกาะ ต้องนั่งเรือนั่งรถมา มันเสียเวลา เรารู้สึกว่าไม่โอเคกั
ด้านของ ภัทรา ได้รับหมายเรียกจากการจัดกิ
“วันนั้นมีตำรวจมาประมาณ 3-4 คน มาเป็นชุดเครื่องแบบเลย ชาวบ้านก็มากรูดูกันว่
“แล้วตอนนั้นพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน แต่เขาต้องให้ผู้ปกครองเซ็นรั
“ตอนนั้นรู้สึกแพนิคมากๆ เด็กอายุ 17 โดนเก้าข้อหาก็ยังไงอยู่นะ แต่สุดท้ายเราก็รู้สึกว่
จริงใจ เล่าว่า เธอได้รับหมายเรียกจำนวนสองหมาย หมายแรกจากการจัดกิจกรรมคาร์ม็
“ในหมายมีทั้งหมด 20 คน แต่ผู้ต้องหาหลักจริงๆ มีแค่ 3-7 คน เราเป็นคนที่ตำรวจไปสืบมาได้เพิ่
“เขา (ตำรวจ) เคยบอกเราตอนไปแจ้งจัดการชุมนุ
“หมายนี้มันตลกมาก เพราะมันพิมพ์ผิดเยอะมาก เช่น พรรคอนาคตไกล คือคิดชื่อพรรคใหม่ให้เขาเหรอ (หัวเราะ) เราก็ต้องมานั่งพิสูจน์อักษรให้ เรารู้สึกว่ามันไม่ได้จริงๆ มันเป็นการรับทราบข้อกล่าวหาที่
เจ้าหน้าที่รัฐนักเยี่ยมบ้าน
o บูมเล่าว่า เขาต้องเผชิญการคุกคามจากเจ้
“เริ่มแรกเลยเขามาหาผมที่โรงเรี
“เขามาเชิงเป็นห่วง เขาบอกว่าเห็นด้วยกับเรานะ แต่ถ้าเราเคลื่อนไหวต่
“ถ้าช่วงมีกิจกรรม เขาก็จะมาจอดรถนั่งเฝ้าอยู่หน้
o ฮัสซานเล่าถึงปัญหาของการจั
“พอประกาศว่าจะมีกิ
“ตอนนั้นอยู่บ้านที่สตูล ทุกวัน เช้า-เที่ยง-เย็น พร้อมมื้ออาหาร ทั้งรถตำรวจที่มีตราโล่และไม่มี
“เหมือนกับเขาทำ vlog ตามติดชี
“วันหนึ่งมีนอกเครื่องแบบเข้
o ภัทรา เล่าถึงสภาพแวดล้อมของเธอที่เต็
“รูปของเรากับเพื่อนๆ ถูกกระจายไปตามที่ต่างๆ แล้วคนแถวบ้านก็เป็นเสื้อเหลื
“ช่วงปี 2564 ที่ม็อบบูมๆ กัน เราก็ไปเข้าร่วม พอถึงเวลาแยกย้าย กำลังจะขับรถกลับบ้าน ก็เจอตำรวจมาขอดูบัตรประชาชน เราก็ให้ไปตามปกติ แต่เขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย แล้วรถตำรวจก็ขับตามเรากลับบ้าน คือถ้าเป็นโจร เราก็จะหาตำรวจถูกไหม แต่นี่เป็นตำรวจ แล้วเราต้องไปหาใคร”
“หลังจากนั้นพอเรามาเป็นผู้
“ก่อนวันที่ประยุทธ์จะมาเปิด
“มันจะมีบุคคลคนหนึ่งที่ไปต่
o ทางด้านของจริงใจเล่าว่า เธอไม่ได้มีประสบการณ์ถูกติ
“เราไม่ได้โดนคุกคามถึงบ้
“ตอนไปรายงานตัว เราก็จะเจอแบบที่ทุกๆ คนบอก คือ ‘พี่อยู่ข้างน้องนะ พี่เป็นกำลังใจให้นะ พี่นับถือมากที่กล้าออกไปทำนั่
ทิศทางของขบวนหลังหมายเรียกที่ถาโถม
o บูมมองว่า แนวทางของตนเองไม่ได้เปลี่
“สำหรับบูมหลังโดนหมาย ไม่คิดว่าแนวทางของตัวเองสูงขึ้
“เมื่อคนโดนหมายมากขึ้น คนกล้าออกมาน้อยลง ก็ทำให้ขบวนการเคลื่อนไหวมันเงี
o ในด้านของภัทรา มองว่าไม่มีเหตุผลที่ต้
“สำหรับเราไม่มีการลดเพดานเลย เพราะการที่เราทำอะไรๆ มันทำให้ภาครัฐกลัวได้ ภาครัฐเกรงกลัวเด็กสองคนที่อายุ 15 หรือ 17 ภาครัฐต้องมาระแวงเด็กอย่างเรา และสิ่งที่เราทำ มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราคนเดี
o ในขณะที่ฮัสซาน กล่าวว่า เนื่องด้วยประเด็นการเคลื่
“เราไม่ได้ทำแค่เรื่องการเมื
o เช่นเดียวกับจริงใจที่มองว่า เมื่อกระแสการชุมนุมในประเด็
“เราทำการฉายหนังเกี่ยวกับเรื่